SHARE

เศรษฐกิจไทย

เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มเติบโตต่ำต่อเนื่องในปี 2568 และ 2569 โดยในช่วงครึ่งปีหลังนี้อาจเติบโตเฉลี่ยไม่ถึง 1%

1. ภาวะเศรษฐกิจไทยในปัจจุบัน

SCB EIC ได้วิเคราะห์เศรษฐกิจไทยในปัจจุบัน ผ่านตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจที่สำคัญ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) อัตราเงินเฟ้อของไทย และอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทย

1.1 ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศของไทย (GDP ประเทศไทย)

SCB EIC คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวเพียง 1.8% ในปี 2568 และ 1.5% ในปี 2569 โดยมีความเสี่ยงที่อัตราเติบโตจะต่ำกว่า 1% ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ การส่งออกเริ่มมีสัญญาณชะลอตัวบ้างหลังสหรัฐฯ ขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากไทย 19% สะท้อนถึงความจำเป็นในการใช้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ สำหรับชุดนโยบายรัฐบาลใหม่ Quick Big Win มองว่าจะช่วยพยุงเศรษฐกิจได้ แต่ผลกระตุ้นจำกัด

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการส่งออกของไทยในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้จะดีกว่าที่คาดไว้ โดยเฉพาะยอดส่งออกเดือนกันยายนที่กลับมาขยายตัวได้ถึง 19% แต่ SCB EIC มองว่าไทยอาจไม่ได้รับประโยชน์จากการส่งออกสุทธิมากนัก เพราะการเติบโตหลักมาจากการส่งออกทองคำ ซึ่งมูลค่าสูงขึ้นมากในปีนี้ตามราคาทองคำ และในขณะเดียวกัน มูลค่าการนำเข้าเร่งตัวขึ้นมากเช่นเดียวกัน

1.2 อัตราเงินเฟ้อของไทย

อัตราเงินเฟ้อทั่วไปคาดว่าจะยังคงติดลบต่อเนื่องอีกหลายเดือน และมีแนวโน้มจะยังไม่กลับเข้าสู่กรอบเป้าหมายในปีนี้และปีหน้า สาเหตุหลักมาจากราคาพลังงานโลกที่ลดลง และมาตรการลดค่าครองชีพของรัฐบาลชุดใหม่ โดยเฉพาะราคาน้ำมันดีเซลที่คาดว่าจะเฉลี่ยต่ำกว่า 30 บาทต่อลิตรในปีหน้า ตามทิศทางราคาน้ำมันดิบโลก

สำหรับปี 2568 SCB EIC คาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ยจะติดลบเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี อยู่ที่ -0.1% ส่วนปี 2569 เงินเฟ้ออาจกลับมาเป็นบวกได้ แต่อยู่ในระดับต่ำเพียง 0.2% ซึ่งต่ำกว่ากรอบเป้าหมายเงินเฟ้อที่ 1–3% อย่างมาก ส่วนหนึ่งสะท้อนภาวะอุปสงค์ในประเทศที่ยังคงชะลอตัว

1.3 อัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทย

SCB EIC คาดว่า กนง. จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงมาอยู่ที่ 1.25% ในการประชุมเดือนธันวาคมนี้ และลดลงอีกครั้งในช่วงต้นปี 2569 เหลือ 1.0% เพื่อประคองเศรษฐกิจไทยที่ยังเปราะบาง

นอกจากนี้ ภาวะการเงินของไทยยังคงตึงตัว เมื่อเทียบกับการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ต่ำกว่าศักยภาพค่อนข้างมาก ทำให้ SCB EIC เชื่อว่า การปรับลดดอกเบี้ยนโยบายทั้งสองครั้งดังกล่าว จะช่วยบรรเทาความเปราะบางของเศรษฐกิจไทยและสนับสนุนการฟื้นตัวในระยะต่อไป

2. นโยบายรัฐบาลภายใต้โครงการ Quick Big Win ของรัฐบาลใหม่ช่วยพยุงเศรษฐกิจระยะสั้น แต่กระตุ้น GDP ได้จำกัด

รัฐบาลใหม่แถลงนโยบาย “Quick Big Win” ตั้งเป้า “กระตุ้นสั้น ได้ผลยาว กระจายตัว” แม้จะประกาศยุบสภาภายใน 4 เดือนหลังแถลงนโยบาย โดยมีมาตรการหลักอย่าง “คนละครึ่ง พลัส” วงเงิน 6.7 หมื่นล้านบาท เร่งใช้จ่ายใน 3 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2569 จากงบกลางรวมราว 1.5 แสนล้านบาท พร้อมมาตรการเสริมอื่น ๆ ด้วย

อย่างไรก็ตาม SCB EIC ประเมินว่า ผลของมาตรการคนละครึ่งฯ ต่อ GDP ยังจำกัด เนื่องจากใช้งบจากโครงการอื่น ไม่ใช่เม็ดเงินใหม่ อีกทั้ง บางส่วนอาจรั่วไหลจากระบบเศรษฐกิจ เช่น การซื้อสินค้านำเข้าหรือใช้จ่ายกับร้านค้าที่อยู่นอกระบบภาษี

3. บทวิเคราะห์เศรษฐกิจไทย

2.1 บทวิเคราะห์เศรษฐกิจไทยเดือนตุลาคม 2568

2.2 บทวิเคราะห์เศรษฐกิจไทยไตรมาส 3/2568

2.3 บทวิเคราะห์เศรษฐกิจไทยเดือนสิงหาคม 2568

2.4 บทวิเคราะห์เศรษฐกิจไทยเดือนกรกฎาคม 2568

2.5 บทวิเคราะห์เศรษฐกิจไทยไตรมาส 2 ปี 2568

2.6 บทวิเคราะห์เศรษฐกิจไทยเดือนพฤษภาคม 2568

2.7 บทวิเคราะห์เศรษฐกิจไทยเดือนเมษายน 2568

2.8 บทวิเคราะห์เศรษฐกิจไทยไตรมาส 1 ปี 2568

2.9 บทวิเคราะห์เศรษฐกิจไทยเดือนมกราคมปี 2568

2.10 รวมบทวิเคราะห์เศรษฐกิจไทย

ธนาคารมีการใช้เทคโนโลยี เช่น คุกกี้ (cookies) และเทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกันบนเว็บไซต์ของธนาคาร เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น โปรดอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ นโยบายการใช้คุกกี้ของธนาคาร
ยอมรับ