เศรษฐกิจจะปรับตัวแย่ในระยะสั้นก่อนที่จะปรับตัวดีขึ้นในปี 2021
ภาพรวมเศรษฐกิจโลกปี 2020
เผยแพร่ใน EIC Outlook ฉบับไตรมาส 4/2020 คลิกอ่านฉบับเต็ม
การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกในระยะสั้นมีโอกาสชะลอลงจากตัวเลขผู้ติดเชื้อ COVID-19 ที่กลับมาเพิ่มขึ้นในบางกลุ่มประเทศ ทำให้ภาครัฐต้องกลับมาใช้มาตรการปิดเมืองที่เข้มงวดขึ้นอีกครั้ง แม้ว่าเศรษฐกิจของหลายประเทศจะสามารถฟื้นตัวจากจุดต่ำสุดในไตรมาสที่ 2 หลังจากที่มีการผ่อนคลายมาตรการปิดเมืองลง อย่างไรก็ดี ในไตรมาสที่ 4 ปี 2020 จำนวนผู้ติดเชื้อกลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้ง โดยเฉพาะในยุโรปและสหรัฐฯ ทำให้หลายประเทศโดยเฉพาะในยุโรปต้องกลับมาใช้มาตรการปิดเมืองที่เข้มงวดอีกครั้ง ซึ่งแม้ว่าจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ในยุโรปจะเริ่มปรับลดลง แต่คาดว่ามาตรการปิดเมืองจะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 4 ของปี 2020 และในช่วงต้นปี 2021 อย่างไรก็ดี มาตรการปิดเมืองในรอบนี้ยังไม่เข้มงวดเท่ากับมาตรการปิดเมืองในไตรมาสที่ 2 ปี 2020 โดยในยุโรปนั้น สถานที่บางแห่ง เช่น โรงเรียน โรงงาน และร้านค้าบางประเภท ยังสามารถเปิดทำการได้ ทำให้ผลกระทบต่อภาคเศรษฐกิจน่าจะมีน้อยกว่า สำหรับในสหรัฐฯ นั้น แม้จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่จะสูงกว่าระดับสูงสุดเดิมเมื่อเดือนมิถุนายน แต่ความเข้มงวดของมาตรการปิดเมืองปรับลดลงเช่นกัน และมีความแตกต่างไปในแต่ละรัฐ ทำให้ผลกระทบต่อภาคเศรษฐกิจจริงน่าจะมีน้อยกว่าการปิดเมืองในไตรมาสก่อนหน้า
แม้ว่าแนวโน้มเศรษฐกิจโลกในระยะสั้นจะปรับตัวแย่ลง แต่ EIC ประเมินว่าในปี 2021 เศรษฐกิจโลกจะกลับมาฟื้นตัวได้จาก 3 ปัจจัยบวก ได้แก่ การค้นพบและแจกจ่ายวัคซีน มาตรการสนับสนุนจากภาครัฐ และรอยแผลเป็นทางเศรษฐกิจที่ปรับชะลอลง
1. วัคซีนจะเป็นปัจจัยสำคัญต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจจะสามารถกลับมาดำเนินได้อีกครั้ง เนื่องจากผลกระทบของไวรัสต่อสุขภาพประชากรจะลดลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยจากผลการทดลองของวัคซีนทั้งสามบริษัทพบว่ามีประสิทธิภาพที่สูงกว่าวัคซีนไข้หวัดทั่วไป EIC จึงคาดว่าจะมีการฉีดวัคซีนอย่างแพร่หลายในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้วในช่วงต้นปี 2021 ในขณะที่ประเทศกำลังพัฒนาจะเริ่มมีการฉีดวัคซีนได้ทั่วไปในช่วงกลางปี 2021 เป็นต้นไป
2. มาตรการภาครัฐจะเป็นอีกปัจจัยสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในปี 2021 โดยธนาคารกลางทั่วโลกยังคงดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายและคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับต่ำต่อเนื่อง สำหรับนโยบายการคลังนั้น หลายประเทศเช่น ประเทศในยุโรปและญี่ปุ่นได้ต่ออายุมาตรการเดิมออกไป และคาดว่าจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหม่เพิ่มเติม โดยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของกลุ่มยูโรโซนจะได้รับการสนับสนุนทางการเงินทั้งในรูปแบบเงินให้เปล่าและเงินกู้จากแผนฟื้นฟู ในขณะที่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ คาดว่าจะดำเนินการได้ในช่วงต้นปี 2021 อย่างไรก็ดี ผลการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภารอบพิเศษในรัฐจอร์เจีย ณ วันที่ 5 มกราคม 2021 จะตัดสินว่าพรรคใดจะได้ครองเสียงข้างมากในวุฒิสภาสหรัฐฯ ซึ่งจะมีผลต่อขนาดของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
3. รอยแผลเป็นทางเศรษฐกิจที่แม้จะยังมีอยู่ แต่มีแนวโน้มปรับชะลอลง โดยก่อนหน้านี้หลายฝ่ายได้กังวลต่อการแพร่ระบาดของ COVID-19 และมาตรการปิดเมืองที่อาจก่อให้เกิดรอยแผลเป็นทางเศรษฐกิจจากอัตราการว่างงานและการปิดกิจการที่ปรับสูงขึ้น อย่างไรก็ดีข้อมูลล่าสุดได้บ่งชี้ว่าอัตราการว่างงานเริ่มปรับดีขึ้นในหลายประเทศ และจำนวนธุรกิจที่ปิดกิจการเริ่มปรับลดลง นอกจากนี้ สัดส่วนผู้ว่างงานส่วนใหญ่ยังเป็นผู้ว่างงานชั่วคราว ซึ่งในเวลาที่เศรษฐกิจเริ่มกลับมาฟื้นตัว แรงงานกลุ่มนี้จะมีโอกาสกลับมาทำงานได้เร็วกว่าผู้ว่างงานแบบถาวร
สำหรับความเสี่ยงสำคัญต่อเศรษฐกิจโลกในปี 2021 มี 3 ประเด็น ได้แก่ 1) ความรุนแรงของการแพร่ระบาดของ COVID-19 รอบใหม่และการใช้มาตรการปิดเมืองที่เข้มงวดขึ้น 2) โอกาสที่จะมีวัคซีนใช้ช้าลง 3) ความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์โลก เช่น ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน สถานการณ์ Brexit และข้อพิพาทระหว่างจีน-อินเดีย