SHARE
IN FOCUS
01 เมษายน 2010

ส่วนต่างของราคาน้ำมันดิบ WTI และ Brent มีแนวโน้มอย่างไร หากเหตุการณ์ความไม่สงบในตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือรุนแรงขึ้น?

ส่วนต่าง (spread) ของราคาน้ำมันดิบ West Texas Intermediate (WTI) และ Brent ยังมีแนวโน้มติดลบจากอุปทานน้ำมันแถบทะเลเหนือที่ตึงตัวและความไม่สงบในตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือที่รุนแรงมากขึ้น ราคาน้ำมันดิบ WTI โดยทั่วไปจะสูงกว่า Brent มีปัจจัยพื้นฐานมาจากความแตกต่างด้านคุณภาพของน้ำมันที่ดีกว่า

ผู้เขียน:  ปราณิดา ศยามานนท์

148803556.jpg

ส่วนต่าง ( spread) ของราคาน้ำมันดิบ West Texas Intermediate (WTI) และ Brent ยังมีแนวโน้มติดลบจากอุปทานน้ำมันแถบทะเลเหนือที่ตึงตัวและความไม่สงบในตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือที่รุนแรงมากขึ้น

ราคาน้ำมันดิบ WTI โดยทั่วไปจะสูงกว่า Brent มีปัจจัยพื้นฐานมาจากความแตกต่างด้านคุณภาพของน้ำมันที่ดีกว่า โดย WTI มีที่มาจากแหล่งผลิตในสหรัฐฯ เป็นน้ำมันดิบคุณภาพสูง ความหนาแน่นและกำมะถันต่ำ (light sweet) และมีการซื้อขายและส่งมอบกันที่เมือง Cushing รัฐ Oklahoma ราคา WTI มักจะถูกใช้อ้างอิงในการกำหนดราคาน้ำมันของทวีปอเมริกาเหนือ สำหรับ Brent มาจากแหล่งผลิตบริเวณทะเลเหนือของมหาสมุทรแอตแลนติก เป็นน้ำมันดิบเกรด light sweet เช่นเดียวกัน แต่มีความหนาแน่นและกำมะถันมากกว่า จึงมีราคาถูกกว่า WTI โดยเฉลี่ยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา spread ของน้ำมันดิบ WTI และ Brent อยู่ที่ประมาณ 1-5 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือมีบางช่วงที่ติดลบจะไม่เกิน 5-7 ดอลลาร์สหรัฐฯ

แต่ตั้งแต่ปลายปี 2010 เป็นต้นมา spread ของราคาน้ำมันดิบ WTI กับ Brent ติดลบต่อเนื่องและกว้าง
มากขึ้น โดยสูงสุดถึงราว 20 ดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2011 มีสาเหตุมาจาก

(1) มีการซ่อมบำรุงหลุมน้ำมันบริเวณแถบทะเลเหนือ ( field maintenance) ทำให้อุปทานน้ำมันในตลาด Brent ลดลงต่อเนื่อง โดย EIA คาดการณ์ปริมาณน้ำมันแถบทะเลเหนือลดลง 210,000 และ 170,000 บาร์เรลต่อวัน ในปี 2011 และ 2012 ซึ่งเป็นปัจจัยที่ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบ Brent อยู่ในระดับสูง   

(2) ปริมาณน้ำมันสำรองของตลาดสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาแคนาดามีการผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นมากและมีการส่งออกผ่านท่อมายังบริเวณ Cushing ซึ่งเป็นสถานที่ส่งมอบน้ำมัน WTI เป็นปริมาณมาก ส่งผลให้ stock น้ำมันของสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ใหม่ที่ 38.6 ล้านบาร์เรล เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2011 ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่กดดันราคาน้ำมัน WTI ให้อยู่ต่ำกว่า Brent มากถึงราว 20 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

(3) เหตุการณ์ความไม่สงบในตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือส่งผลต่อราคาน้ำมันดิบ Brent มากกว่า WTI แม้ในแง่ sentiment จะส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมันดิบทุกตลาด แต่ในแง่ภูมิศาสตร์ จะส่งผลกระทบต่อ Brent มากกว่า เนื่องจากความกังวลของตลาดว่าสถานการณ์อาจรุนแรงบานปลายจนอาจส่งผลกระทบต่อการขนส่งน้ำมันผ่านคลอง Suez และท่อ Sumed ในอียิปต์ซึ่งเชื่อมต่อระหว่างทะเลแดงและทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เพื่อส่งน้ำมันจากอ่าวเปอร์เซียไปยังยุโรป และอาจจะทำให้ขนส่งน้ำมันมาไม่ได้ ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับตัวสูงขึ้นมากกว่าการเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันดิบ WTI

(4) ราคาน้ำมัน WTI ขึ้นกับตลาดการเงินค่อนข้างมาก ส่งผลให้บางครั้ง ราคาอาจไม่ค่อยสะท้อนความต้องการน้ำมันที่แท้จริง เพราะถูกกระทบจาก sentiment ของนักลงทุน โดยมีการซื้อขายในตลาดล่วงหน้า New York Mercantile Exchange (NYMEX) แต่ในทางปฏิบัติ ราคาน้ำมัน WTI มีการซื้อขายจริง (physical trading) เพียง 0.5% ของปริมาณเนื้อน้ำมันที่มีการ
ส่งมอบกันจริงในตลาดโลกต่อวัน ดังนั้น ราคา WTI จึงมักผันผวนตาม sentiment ของตลาด ทั้งนี้ ในความเป็นจริงหากมีการ
ส่งมอบน้ำมัน WTI จริงจะต้องบวก premium ไปอีกราว 10 ดอลลาร์สหรัฐฯ จึงจะสะท้อนราคาเนื้อน้ำมันที่แท้จริง

Implication.png

886_20100622103105.gif

  • แม้ spread จะเริ่มแคบลง แต่คาดว่ายังมีแนวโน้มติดลบเช่นนี้อยู่อีกระยะหนึ่งเนื่องจากยังมีปัญหาด้านการขนส่ง ทำให้ยังต้องลำเลียงน้ำมันจำนวนมากส่งผ่านมายัง Cushing ซึ่งกดดันราคาน้ำมันดิบ WTI ไม่ให้เร่งตัวมากเท่า Brent ขณะที่เหตุการณ์ความไม่สงบในตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือที่รุนแรงมากขึ้นกดดันให้ราคาน้ำมันเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะ Brent แต่ในระยะยาว spread น่าจะแคบลงใกล้เคียงระดับเดิมหากมีการเพิ่มท่อลำเลียงน้ำมันจาก Cushing ไปยัง US gulf coast ซึ่งจะระบายน้ำมันออกจากตลาด ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบ WTI ดีดตัวสูงขึ้น


  • ผลกระทบต่อไทย ราคาน้ำมันดิบ Brent ที่ปรับตัวสูงขึ้นมากกว่า WTI ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบ Dubai ซึ่งเป็นราคาอ้างอิงของภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกรวมถึงไทยปรับตัวสูงขึ้นตามและ spread ของ WTI-Dubai ติดลบตาม โดยติดลบสูงสุดถึงราว 10 ดอลลาร์สหรัฐฯ เนื่องจากราคาน้ำมันดิบ Dubai มักเคลื่อนไหวตาม Brent เพราะราว 2 ใน 3 ของปริมาณน้ำมันดิบที่ซื้อขายกันในตลาดโลกอ้างอิงจากราคาน้ำมันดิบ Brent ซึ่งเป็นราคาที่ถูกใช้อ้างอิงในยุโรป แอฟริกา และตะวันออกกลาง

 2121_20110401105942.jpg

 

Get the additional info

ธนาคารมีการใช้เทคโนโลยี เช่น คุกกี้ (cookies) และเทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกันบนเว็บไซต์ของธนาคาร เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น โปรดอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ นโยบายการใช้คุกกี้ของธนาคาร
ยอมรับ