SHARE
SCB EIC ARTICLE
29 กันยายน 2017

BULL-BEAR: ราคาน้ำมัน

เผยแพร่ใน EIC Outlook ฉบับไตรมาส 4/2017 คลิกอ่านฉบับเต็ม 

 

ราคาน้ำมัน 
(USD/บาร์เรล)

2016 2017F 2018F
(ค่าเฉลี่ย)  Q1 Q2 Q3 Q4 เฉลี่ย Q1F Q2F Q3F Q4F เฉลี่ย สูงสุด* ต่ำสุด* เฉลี่ย

ราคาน้ำมันดิบ

WTI

33 46 45 49 43 52 50 50 52 51 55 47 55
ราคาน้ำมันดิบ Brent 35 46 46 50 44 54 52 52 55 53 57 49 57

 

* ข้อมูลจาก สำนักวิจัยชั้นนำของต่างประเทศ (ณ 22 สิงหาคม 2017)
ที่มา: การวิเคราะห์โดย EIC

 

EIC’s view: Bear
ราคาน้ำมันดิบในไตรมาส 4 ปี 2017 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเล็กน้อยแต่ยังอยู่ในระดับต่ำ โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากความต้องการน้ำมันที่สูงขึ้นทั้งในช่วงฤดูหนาว และตามการเติบโตทางเศรษฐกิจโดยเฉพาะในกลุ่มประเทศเอเชีย นำโดยจีน อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันยังได้รับแรงกดดันจากปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้นในกลุ่ม OPEC อย่างลิเบีย และไนจีเรีย หลังจากที่ปัญหาการเมืองคลี่คลายลง นอกจากนี้ OPEC และ Non-OPEC ยังไม่สามารถทำตามข้อตกลงที่จะลดปริมาณการผลิตน้ำมันรวม 1.8 ล้านบาร์เรลต่อวันได้ สะท้อนจาก compliance rate อยู่ที่ระดับเพียง 75% ทำให้ข้อตกลงดังกล่าวไม่มีผลกระทบต่อการลดอุปทานน้ำมันมากนัก อย่างไรก็ตาม ต้องจับตาว่าข้อตกลงดังกล่าวจะได้รับการยืดอายุต่อไปอีกจากเดือนมีนาคม 2018 และผู้ผลิตจะทำได้ตามข้อตกลงหรือไม่ ซึ่งจะทำให้ราคาน้ำมันปรับสูงขึ้นได้

 

BULLs   BEARs
  • ความต้องการน้ำมันทั่วโลกมีแนวโน้มสูงขึ้นตามฤดูกาลในไตรมาส 4 เพราะเข้าสู่ช่วงฤดูหนาว ทั้งนี้ สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐฯ (EIA) ประเมินว่าในไตรมาส 4 ปี 2017 อุปสงค์น้ำมันโลกจะขยายตัวราว 2%YOY มาอยู่ที่ 99.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยเอเชียจะมีการเติบโตของอุปสงค์มากที่สุดที่ 4%YOY โดยเฉพาะจีนที่เป็นประเทศบริโภคน้ำมันใหญ่เป็นอันดับสองของโลกจะมีการเติบโตของอุปสงค์ที่ 3.5% มาอยู่ที่ 13 ล้านบาร์เรลต่อวัน

  • ปริมาณน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ส่งสัญญาณตึงตัว โดยกระทรวงพลังงานของสหรัฐฯ รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังในประเทศได้ลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่สิ้นไตรมาสแรก โดยในเดือนกรกฎาคมปรับลดลงกว่า 10 ล้านบาร์เรล เหลืออยู่ที่ระดับ 482 ล้านบาร์เรล หรือหดตัว 2%YOY สอดคล้องกับ EIA ที่คาดการณ์ว่าในปี 2018 สหรัฐฯ จะมีอุปทานน้ำมันดิบเพียง 16.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในขณะที่มีอุปสงค์น้ำมันถึง 20.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน

 
  • ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของกลุ่ม OPEC เพิ่มขึ้น 1.7 แสนบาร์เรลต่อวัน ในเดือนกรกฎาคม เทียบกับเดือนที่ผ่านมา นำโดยการผลิตจากลีเบีย และไนจีเรีย ที่ปัญหาทางการเมืองเริ่มคลี่คลาย ทั้งนี้ ทั้งสองประเทศได้รับการยกเว้นไม่ต้องลดปริมาณการผลิต ในข้อตกลงที่ OPEC และ Non-OPEC นำโดยรัสเซีย ร่วมกันลดปริมาณการผลิตรวม 1.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน

  • จากข้อตกลงดังกล่าว compliance rate หรืออัตราส่วนปริมาณการผลิตน้ำมันที่ลดลงได้จริงต่อปริมาณการผลิตน้ำมันที่ได้ตกลงไว้ว่าจะลด ของกลุ่ม OPEC เหลือเพียง 75% ในเดือนกรกฎาคม ต่ำที่สุดตั้งแต่ที่ได้เริ่มดำเนินการลดปริมาณการผลิตในเดือนมกราคม ซึ่งเดิมในช่วงต้นปี 2017 compliance rate เคยอยู่สูงกว่า 100% สะท้อนให้เห็นว่าความพยายามลดอุปทานน้ำมันของ OPEC เพื่อผลักดันให้ราคาสูงขึ้นทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร

  • Fed อาจปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 1 ครั้ง ในเดือนธันวาคม ทำให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายอยู่ในช่วง 1.25% – 1.5% ณ สิ้นปี 2017 ส่งผลให้เงินทุนไหลออกจากตลาดน้ำมันไปยังตลาดเงินในสหรัฐฯ กดดันราคาน้ำมันให้อยู่ในระดับต่ำ

 

 

ธนาคารมีการใช้เทคโนโลยี เช่น คุกกี้ (cookies) และเทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกันบนเว็บไซต์ของธนาคาร เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น โปรดอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ นโยบายการใช้คุกกี้ของธนาคาร
ยอมรับ