เผยแพร่ใน EIC Outlook ฉบับไตรมาส 4/2017 คลิกอ่านฉบับเต็ม
ราคาน้ำมัน (USD/บาร์เรล)
|
2016 |
2017F |
2018F |
(ค่าเฉลี่ย) |
Q1 |
Q2 |
Q3 |
Q4 |
เฉลี่ย |
Q1F |
Q2F |
Q3F |
Q4F |
เฉลี่ย |
สูงสุด* |
ต่ำสุด* |
เฉลี่ย |
ราคาน้ำมันดิบ
WTI
|
33 |
46 |
45 |
49 |
43 |
52 |
50 |
50 |
52 |
51 |
55 |
47 |
55 |
ราคาน้ำมันดิบ Brent |
35 |
46 |
46 |
50 |
44 |
54 |
52 |
52 |
55 |
53 |
57 |
49 |
57 |
* ข้อมูลจาก สำนักวิจัยชั้นนำของต่างประเทศ (ณ 22 สิงหาคม 2017)
ที่มา: การวิเคราะห์โดย EIC
EIC’s view: Bear ราคาน้ำมันดิบในไตรมาส 4 ปี 2017 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเล็กน้อยแต่ยังอยู่ในระดับต่ำ โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากความต้องการน้ำมันที่สูงขึ้นทั้งในช่วงฤดูหนาว และตามการเติบโตทางเศรษฐกิจโดยเฉพาะในกลุ่มประเทศเอเชีย นำโดยจีน อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันยังได้รับแรงกดดันจากปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้นในกลุ่ม OPEC อย่างลิเบีย และไนจีเรีย หลังจากที่ปัญหาการเมืองคลี่คลายลง นอกจากนี้ OPEC และ Non-OPEC ยังไม่สามารถทำตามข้อตกลงที่จะลดปริมาณการผลิตน้ำมันรวม 1.8 ล้านบาร์เรลต่อวันได้ สะท้อนจาก compliance rate อยู่ที่ระดับเพียง 75% ทำให้ข้อตกลงดังกล่าวไม่มีผลกระทบต่อการลดอุปทานน้ำมันมากนัก อย่างไรก็ตาม ต้องจับตาว่าข้อตกลงดังกล่าวจะได้รับการยืดอายุต่อไปอีกจากเดือนมีนาคม 2018 และผู้ผลิตจะทำได้ตามข้อตกลงหรือไม่ ซึ่งจะทำให้ราคาน้ำมันปรับสูงขึ้นได้ |
BULLs |
|
BEARs |
- ความต้องการน้ำมันทั่วโลกมีแนวโน้มสูงขึ้นตามฤดูกาลในไตรมาส 4 เพราะเข้าสู่ช่วงฤดูหนาว ทั้งนี้ สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐฯ (EIA) ประเมินว่าในไตรมาส 4 ปี 2017 อุปสงค์น้ำมันโลกจะขยายตัวราว 2%YOY มาอยู่ที่ 99.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยเอเชียจะมีการเติบโตของอุปสงค์มากที่สุดที่ 4%YOY โดยเฉพาะจีนที่เป็นประเทศบริโภคน้ำมันใหญ่เป็นอันดับสองของโลกจะมีการเติบโตของอุปสงค์ที่ 3.5% มาอยู่ที่ 13 ล้านบาร์เรลต่อวัน
- ปริมาณน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ส่งสัญญาณตึงตัว โดยกระทรวงพลังงานของสหรัฐฯ รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังในประเทศได้ลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่สิ้นไตรมาสแรก โดยในเดือนกรกฎาคมปรับลดลงกว่า 10 ล้านบาร์เรล เหลืออยู่ที่ระดับ 482 ล้านบาร์เรล หรือหดตัว 2%YOY สอดคล้องกับ EIA ที่คาดการณ์ว่าในปี 2018 สหรัฐฯ จะมีอุปทานน้ำมันดิบเพียง 16.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในขณะที่มีอุปสงค์น้ำมันถึง 20.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน
|
|
- ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของกลุ่ม OPEC เพิ่มขึ้น 1.7 แสนบาร์เรลต่อวัน ในเดือนกรกฎาคม เทียบกับเดือนที่ผ่านมา นำโดยการผลิตจากลีเบีย และไนจีเรีย ที่ปัญหาทางการเมืองเริ่มคลี่คลาย ทั้งนี้ ทั้งสองประเทศได้รับการยกเว้นไม่ต้องลดปริมาณการผลิต ในข้อตกลงที่ OPEC และ Non-OPEC นำโดยรัสเซีย ร่วมกันลดปริมาณการผลิตรวม 1.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน
- จากข้อตกลงดังกล่าว compliance rate หรืออัตราส่วนปริมาณการผลิตน้ำมันที่ลดลงได้จริงต่อปริมาณการผลิตน้ำมันที่ได้ตกลงไว้ว่าจะลด ของกลุ่ม OPEC เหลือเพียง 75% ในเดือนกรกฎาคม ต่ำที่สุดตั้งแต่ที่ได้เริ่มดำเนินการลดปริมาณการผลิตในเดือนมกราคม ซึ่งเดิมในช่วงต้นปี 2017 compliance rate เคยอยู่สูงกว่า 100% สะท้อนให้เห็นว่าความพยายามลดอุปทานน้ำมันของ OPEC เพื่อผลักดันให้ราคาสูงขึ้นทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร
- Fed อาจปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 1 ครั้ง ในเดือนธันวาคม ทำให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายอยู่ในช่วง 1.25% – 1.5% ณ สิ้นปี 2017 ส่งผลให้เงินทุนไหลออกจากตลาดน้ำมันไปยังตลาดเงินในสหรัฐฯ กดดันราคาน้ำมันให้อยู่ในระดับต่ำ
|