SHARE
SCB EIC ARTICLE
18 กันยายน 2017

มองโลกาภิวัตน์ยุคใหม่ผ่านแนวคิด digital globalization และ platform business

ผู้เขียน: ดร.ธนพล ศรีธัญพงศ์

เผยแพร่ในประชาชาติธุรกิจ วันที่ 18 กันยายน 2017

 

Thumb_digitalglobalization.jpg

 

ในปัจจุบัน โลกาภิวัตน์ (globalization) ถูกนิยามด้วยการไหลเวียนของปริมาณข้อมูลข่าวสาร ซึ่งแตกต่างจากโลกาภิวัตน์ในอดีตที่เน้นการไหลเวียนของปริมาณการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ เทคโนโลยี และสังคมที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว โลกเผชิญกับโลกาภิวัตน์ในอีกรูปแบบที่เปลี่ยนไป ผู้คนต่างถูกร้อยเรียงเข้าด้วยกันผ่านตัวกลางอย่างอินเทอร์เน็ตและสื่อออนไลน์หรือ digital platform ต่าง ๆ digital globalization จึงกลายเป็นคำนิยามของโลกยุคปัจจุบันที่เทคโนโลยีพัฒนาอย่างก้าวกระโดดเมื่อเทียบกับทศวรรษที่ผ่านมา เห็นได้ชัดเจนว่าหลังวิกฤติเศรษฐกิจเมื่อปี 2008 การค้าโลกและการไหลเวียนเงินลงทุนระหว่างประเทศลดลงและยังไม่สามารถฟื้นกลับมาได้เมื่อเทียบกับช่วงก่อนวิกฤติ แต่ปริมาณการไหลเวียนของข้อมูลและธุรกรรมทางอินเทอร์เน็ตระหว่างประเทศกลับเพิ่มขึ้นมากกว่า 50 เท่า ผู้คนกว่า 2.5 พันล้านคน อีเมล์กว่า 2 แสนล้านฉบับถูกแลกเปลี่ยนสื่อสารกันผ่านโลกออนไลน์ในแต่ละวัน digital globalization ได้มีนัยสำคัญต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจและธุรกิจของประเทศต่างทั่วโลกมากขึ้นในทุก ๆ วัน

 

1.png

 

กระแส digital globalization สร้างโอกาสให้แก่ทั้งผู้ประกอบการและผู้บริโภคอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ด้วยจำนวนข้อมูลที่เข้าถึงได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศและดิจิทัลที่ก้าวกระโดด ทำให้การนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์เป็นเรื่องที่ทำได้ ต้นทุนต่ำ และไม่ได้จำกัดเฉพาะกลุ่ม ด้วยเหตุนี้ digital platform จึงช่วยลดต้นทุนในการติดต่อและทำธุรกรรมข้ามประเทศและทำให้เกิดโอกาสทางเศรษฐกิจและธุรกิจใหม่ ๆ อย่างคาดไม่ถึง การไหลเวียนของข้อมูลและการใช้ประโยชน์จากข้อมูลมีหลากหลายวิธีไม่ว่าจะเป็นการทำธุรกรรมออนไลน์ หรือแม้แต่ข้อมูลที่มีอยู่แล้วบนอินเทอร์เน็ต ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ ธุรกิจสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง ทั้งการวิเคราะห์ลักษณะของกลุ่มลูกค้า การออกแบบสินค้าและบริการให้ตรงตามความต้องการ หรือการเสาะแสวงหาตลาดใหม่ ๆ

 

พร้อมกันนี้ ในโลกยุค digital globalization ที่ทุกอย่างถูกเชื่อมโยงเข้าใกล้กันอย่างมากและอินเทอร์เน็ตกลายเป็นศูนย์รวมของผู้คนจากทั่วทุกมุมโลก การเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของการแลกเปลี่ยนข้อมูลต่างๆ ย่อมก่อให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ธุรกิจที่สามารถจับแนวโน้ม digital globalization ได้ดีก็มักจะมีรูปแบบของโมเดลทางธุรกิจที่เรียกว่า platform ซึ่งจะเห็นได้จากการเติบโตของบริษัทที่พลิกโฉมอุตสาหกรรมและสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจอย่างมหาศาล เช่น Facebook Google Apple และ Alibaba ที่มีการเติบโตของรายได้ทุกปีระดับ 10-30% ล้วนก็มีที่มาจากการสร้าง platform เพื่อให้คนกลุ่มหนึ่งเข้าหาและติดต่อสื่อสารคนอีกกลุ่มหนึ่งได้ดีขึ้น ตัวอย่าง platform business ที่ผู้บริโภคชาวไทยคุ้นเคยมานาน คือ eBay ที่หากผู้ขายชาวไทยต้องการจะขายสินค้า ก็สามารถนำไปเสนอขายบนเว็บไซต์ได้อย่างง่ายดาย โดยที่ลูกค้าที่มาซื้อสินค้าอาจเป็นคนในประเทศสิงคโปร์ หรือสหรัฐฯ และชำระผ่าน PayPal ได้ และนักอ่านชาวไทยที่ต้องการซื้อนิยายเล่มล่าสุดที่เพิ่งวางแผงจากผู้เขียนชาวญี่ปุ่น ก็สามารถซื้อหนังสือเล่มนั้นในรูปแบบ e-book ผ่านบริการของ Amazon ได้เป็นต้น กิจกรรมทางเศรษฐกิจเหล่านี้ล้วนเกิดขึ้นโดยผ่านตัวกลาง คือ online platform ทั้งสิ้น จะเห็นได้ว่า ดิจิทัลเทคโนโลยีและอินเทอร์เน็ตมีพลังในการขับเคลื่อนและเปลี่ยนแปลงรูปแบบการดำเนินธุรกิจ รวมไปถึงสื่อออนไลน์ทั้ง Youtube และ Facebook ที่สร้างอาชีพใหม่และสร้างรายได้รูปแบบใหม่ให้แก่ระบบเศรษฐกิจ เช่น นักพากย์เกมและผู้ที่ทำรายการผ่าน Youtube channel ของตัวเอง ก็กำลังเป็นช่องทางการสร้างมูลค่าและรายได้ผ่านรูปแบบ platform ใหม่นี้เช่นเดียวกัน

 

ดังนั้น เศรษฐกิจและธุรกิจที่จะประสบความสำเร็จและมีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดในยุค digital globalization ล้วนต้องเกิดจากการสร้าง platform เพื่อดึงผู้ให้บริการและผู้ใช้บริการเข้ามาไว้ในระบบนิเวศน์เดียวกันแล้วร่วมกันสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจแบบทวีคูณ ในระดับประเทศ เห็นได้ชัดมานานว่าประเทศเกาหลีใต้ได้สร้าง platform การส่งออกวัฒนธรรมเกาหลีใต้ (Korean Wave) ทั้งเพลง ละคร อาหารออกสู่สังคมโลกได้อย่างงดงามและสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้อย่างมากมาย ด้านในแง่ระดับธุรกิจ เดิมรูปแบบธุรกิจส่วนใหญ่จะมีแนวคิดแบบเป็นท่อ (pipeline) คือ ผลิต จำหน่าย แล้วบริโภคส่งเป็นเส้นตรง แต่ในโลกปัจจุบัน บริษัทที่เป็นผู้ชนะในอุตสาหกรรมที่แท้จริงจะต้องเป็นผู้สร้าง platform และมองความสัมพันธ์ระหว่างผู้เล่นในระบบที่ไม่ใช่เส้นตรงทางเดียวเสมอไป ประเด็นสำคัญ 3 ประการที่ทำให้แนวคิด platform business ช่วยให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างรวดเร็วกว่าในยุคดิจิทัล คือ 1) ความสัมพันธ์ (direct interaction) ระหว่างผู้ผลิต บริษัท ผู้บริโภคที่จะมีการติดต่อกันซับซ้อนมากขึ้นผ่าน platform 2) กิจกรรมทางเศรษฐกิจจะถูกเปลี่ยนรูปแบบไปจากเดิมที่บริษัทเป็นเพียงผู้สร้างมูลค่าเพิ่มเพียงผู้เดียวมาเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มร่วมกัน และ 3) เป้าประสงค์การสร้างมูลค่าสูงสุดเปลี่ยนจากการสร้างความพอใจสูงสุดแก่ผู้บริโภค (customer value) มาเป็นความพอใจสูงสุดของทุกคนในระบบ (ecosystem value) จึงไม่น่าแปลกใจว่า startup ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงในปัจจุบัน ทุกบริษัทล้วนคำนึงถึงการใช้ประโยชน์จากแนวคิด digital globalization และมีรูปแบบ platform ของตัวเองที่เด่นชัด

 

หากจะยกตัวอย่างบริษัทใกล้ตัวที่ทุกคนรู้จักกันดี บริษัทหนึ่งที่โดดเด่นในภูมิภาคอาเซียนรวมถึงประเทศไทย คือ บริษัท Grab ที่พลิกโฉมการให้บริการรถรับส่งโดยสารในหลายๆ ประเทศ และได้รับความนิยมอย่างสูงติดตลาดภายในเวลาอันรวดเร็ว โมเดลทางธุรกิจของ Grab อยู่บน platform ของการแบ่งปันสินทรัพย์ (asset sharing) โดยผู้ให้บริการใช้รถของตัวเองในการให้บริการ บริษัทมีการใช้เทคโนโลยีในการทำให้ผู้ให้บริการและผู้ใช้บริการพบกันได้สะดวกยิ่งขึ้น (collaborative ecosystem) และมีเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้บริโภคเลือกบริการที่ตรงกับความต้องการของตนมากขึ้น (personalization) สำหรับค่าใช้จ่ายในการใช้บริการก็อิงอยู่กับราคาตลาดและราคาค่าโดยสารตามที่รัฐกำหนดบวกอัตราค่าบริการในการเรียกรถ (usage-based pricing) จะเห็นได้ว่า Grab ได้สร้าง platform การเชื่อมโยงรูปแบบใหม่ให้กับผู้เล่นในธุรกิจโลจิสติกส์ เพราะเป็นตัวเชื่อมระหว่างผู้โดยสารที่กำลังหารถโดยสารและผู้ขับรถที่กำลังมองหาผู้โดยสารนั่นเอง นอกเหนือจากบริษัท Grab แล้วก็มีอีกหลาย startup ในไทยที่ก็ประสบความสำเร็จในการสร้าง platform อย่างเช่น วงใน (wongnai) ที่ช่วยให้ผู้บริโภครีวิวร้านอาหารและทราบถึงคะแนนรีวิวโดยสมาชิกอื่น เป็นต้น

 

ในโลกดิจิทัลที่ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เศรษฐกิจและธุรกิจที่อยู่กับที่ คือ เศรษฐกิจและธุรกิจที่พร้อมถอยหลังตลอดเวลา รูปแบบการมองเศรษฐกิจและธุรกิจในปัจจุบันอาจจะไม่ใช่ยุคที่ “ปลาใหญ่กินปลาเล็ก” อีกต่อไป แต่จะเป็นยุคที่ “ปลาเร็วกินปลาช้า” แทน ปลาตัวเล็กนั้นสามารถเติบโตอย่างก้าวกระโดดและอยู่รอดได้หากเปลี่ยนแปลงได้เร็วตามทันโลกยุคใหม่ ดังนั้น เมื่อตระหนักถึงความเปลี่ยนแปลงของแนวคิดโลกาภิวัตน์และรูปแบบธุรกิจที่เปลี่ยนไปแล้ว ก็คงหาคำตอบได้ไม่ยากว่าเศรษฐกิจและธุรกิจของเราอยากจะเป็นปลาประเภทไหนในคลื่นมหาสมุทรโลกที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง

 

ธนาคารมีการใช้เทคโนโลยี เช่น คุกกี้ (cookies) และเทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกันบนเว็บไซต์ของธนาคาร เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น โปรดอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ นโยบายการใช้คุกกี้ของธนาคาร
ยอมรับ