SHARE
IN FOCUS
30 พฤศจิกายน 2023

แฟชั่นมือสอง…เชื่อมต่อระหว่างสไตล์กับความยั่งยืน

SCB EIC คาดว่า ปี 2023 มูลค่าตลาดแฟชั่นมือสองของไทยจะเติบโตราว 20% และคาดว่าจะมีอัตราเติบโตต่อเนื่องเฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ราว 15% ในช่วงปี 2024-2027

มูลค่าแฟชั่นมือสองเติบโตมากกว่า 3 เท่าของมูลค่าตลาดเสื้อผ้าในปี 2027

ธุรกิจแฟชั่นมือสองมีบทบาทมากขึ้นในวงการแฟชั่น โดยคาดว่ามูลค่าเสื้อผ้ามือสองจะเติบโตเร็วกว่าตลาดเสื้อผ้าทั่วไปถึง 3 เท่าในปี 2027 ธุรกิจแฟชั่นมือสองหรือ 'Resale fashion' ได้เข้ามามีบทบาทที่น่าสนใจและได้รับการตอบรับอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่การซื้อขายเสื้อผ้ามือสองจะช่วยผู้บริโภคประหยัดค่าใช้จ่าย แต่ยังช่วยให้เกิดการลดการใช้ทรัพยากรและปริมาณขยะ เว็บไซต์ Marketplace ของสินค้าแฟชั่นมือสองสัญชาติอเมริกันอย่าง ThredUp ได้ประมาณการการเติบโตของมูลค่าตลาดแฟชั่นมือสองของโลกไว้ที่ราว 3.5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยคาดว่าอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ 12% ในช่วงปี 2024-2027 โดยมีภูมิภาคเอเชียเป็นตลาดใหญ่สำหรับสินค้าแฟชั่นมือสอง

แฟชั่นมือสองเปิดโอกาสให้ทั้งผู้ค้าปลีก ผู้บริโภค และส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อม  

อุตสาหกรรมแฟชั่นมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว รวมถึงการเข้ามามีบทบาทสำคัญของตลาดการขายสินค้าแฟชั่นมือสอง ซึ่งเป็นโอกาสที่สำคัญให้กับผู้ค้าปลีกสร้างรายได้และเข้าถึงลูกค้ากลุ่มใหม่พร้อมทั้งเพิ่ม Brand loyalty และข้อมูลตลาดเพื่อพัฒนาสินค้าที่ตอบโจทย์ลูกค้ามากขึ้น อีกทั้ง การซื้อสินค้าแฟชั่นมือสองเพิ่มความคุ้มค่าให้ผู้บริโภคด้วยการเข้าถึงแบรนด์ดังในราคาที่เอื้อมถึง พร้อมส่งเสริมการบริโภคที่ยั่งยืนและเปิดโอกาสในการค้นหาสินค้าที่มีเอกลักษณ์และหายาก นอกจากนี้ สินค้าแฟชั่นมือสองเป็นหนึ่งในทางเลือกที่ผู้บริโภคสามารถรักษาสิ่งแวดล้อมและลดการใช้ทรัพยากร การสนับสนุนสินค้าแฟชั่นมือสองจะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ประหยัดทรัพยากร น้ำ และพลังงาน ลดจำนวนเสื้อผ้าเก่าที่ไปจบลงที่หลุมฝังกลบหรือเตาเผา 

แบรนด์สินค้าแฟชั่นเข้ามาเป็นผู้เล่นในตลาดสินค้าแฟชั่นมือสองมากขึ้น

ตลาดสินค้าแฟชั่นมือสองมีศักยภาพที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทำให้แบรนด์สินค้าแฟชั่นต่าง ๆ เริ่มเข้ามาเป็นผู้เล่นในตลาดสินค้าแฟชั่นมือสองมากขึ้น โดยทั่วไปสามารถพบการ Resale ของแบรนด์สินค้าอยู่ 2 รูปแบบที่เป็นที่นิยมคือ 1) แบรนด์หรือผู้ค้าปลีกเก็บรวบรวมสินค้าแฟชั่นมือสองของแบรนด์ตัวเองจากลูกค้าและเสนอตัวเลือกการขายสินค้ามือสองโดยตรงภายในร้านค้าหรือแพลตฟอร์มออนไลน์ของร้านค้า และ 2) แบรนด์หรือผู้ค้าปลีกร่วมมือกับแพลตฟอร์มออนไลน์ที่มีศักยภาพสูงเพื่อขายสินค้าแฟชั่นมือสองที่ได้รับการรับรองจากทางแบรนด์

ตลาดแฟชั่นมือสองในไทยมีศักยภาพในการเติบโตได้อีกมาก โดยเฉพาะช่องทางออนไลน์ที่เติบโตสูง

ไม่เพียงแต่ตลาดสินค้าแฟชั่นมือสองในตลาดโลกเติบโตได้ดี ตลาดแฟชั่นมือสองในประเทศไทยเองก็น่าจับตามอง โดย SCB EIC คาดการณ์ว่า ในปี 2023 มูลค่าตลาดแฟชั่นมือสองของไทยจะเติบโตต่อราว 20% โดยมีมูลค่าตลาดอยู่ที่ประมาณ 1,800 ล้านบาท และในระยะข้างหน้า คาดว่าจะยังมีแนวโน้มขยายตัวได้ต่อเนื่องที่ราว 15% ในปี 2024-2027 เนื่องจากการซื้อสินค้าแฟชั่นมือสองได้รับการยอมรับมากขึ้นจากผู้บริโภคไทย อีกทั้ง การตื่นตัวด้านสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะการตระหนักถึงผลกระทบของกระบวนการผลิตสินค้าแฟชั่นต่อสิ่งแวดล้อมที่มากขึ้น

ผู้ประกอบการค้าปลีกสินค้าแฟชั่นสามารถต่อยอดพัฒนารูปแบบการขายสินค้าแฟชั่นมือสองเพื่อเพิ่มรายได้

รูปแบบการขายสินค้าแฟชั่นมือสองสามารถพัฒนาได้ 2 รูปแบบ คือ 1) ผู้ประกอบการค้าปลีก/เจ้าของแบรนด์พัฒนาช่องทางการขายทั้งหน้าร้านและออนไลน์ของตน โดยขายเฉพาะสินค้าจากร้านของตน และ 2) ผู้ประกอบการค้าปลีกเข้ามาพัฒนาแพลตฟอร์มการขายสินค้าแฟชั่นมือสองสำหรับสินค้าหลากหลายแบรนด์ อย่างไรก็ดี ผู้ประกอบการที่ต้องการเข้าสู่ตลาดสินค้าแฟชั่นมือสองต้องเผชิญกับความท้าทายหลายประการ รวมถึงต้นทุนในการพัฒนาระบบรับซื้อและจำหน่ายสินค้า ความเสี่ยงที่สินค้ามือสองอาจแบ่งยอดขายของสินค้าใหม่ และความซับซ้อนในการจัดการสินค้าคงคลัง นอกจากนี้ ยังต้องมีความชำนาญในการตรวจสอบสินค้าและสร้างความน่าเชื่อถือในการขาย ผู้ประกอบการจะต้องรับความเสี่ยงหากไม่สามารถขายสินค้าออกไปได้ สำหรับผู้ประกอบการที่อยู่ในตลาดสินค้าแฟชั่นมือสองอยู่แล้ว อาจเผชิญกับการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นจากผู้ประกอบการใหม่และแบรนด์ที่หันมาสนใจตลาดนี้มากขึ้น



Button-01-(1).jpg

ธนาคารมีการใช้เทคโนโลยี เช่น คุกกี้ (cookies) และเทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกันบนเว็บไซต์ของธนาคาร เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น โปรดอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ นโยบายการใช้คุกกี้ของธนาคาร
ยอมรับ