จับตานโยบายผู้ชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ

เผยแพร่ใน EIC Outlook ฉบับไตรมาส 2/2016

ในวันที่ 18 พฤศจิกายน 2016 นี้ จะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีคนที่ 58 ของสหรัฐฯ โดยในระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ – มิถุนายน จะมีการเลือกตั้งภายในพรรคเพื่อเลือกตัวแทนลงสมัครตำแหน่งประธานาธิบดี ทั้งนี้ เมื่อสิ้นสุดเดือนมีนาคมที่ผ่านมา นาย Donald Trump ซึ่งเป็นผู้สมัครจากพรรค Republican ที่มีคะแนนนิยมทิ้งช่วงจากผู้สมัครรายอื่นภายในพรรค ในขณะที่ในพรรค Democrat คะแนนของนาง Hillary Clinton ยังคงไม่ทิ้งห่างจากนาย Bernie Sanders มากนัก ทั้งนี้ ผู้ที่ได้รับเลือกตั้งมาเป็นประธานาธิบดีต่อจากนาย Barack Obama อาจจะมีการดำเนินนโยบายที่เปลี่ยนไป ซึ่งอาจจะมีนัยที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกและไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งนโยบายทางด้านการค้า และนโยบายความมั่นคงที่อาจทำให้เกิดความเสี่ยงเชิงภูมิรัฐศาสตร์ (geopolitical risks) ดังนั้น การเลือกตั้งของสหรัฐฯ ในปีนี้นับเป็นเหตุการณ์สำคัญอย่างหนึ่งที่ควรต้องจับตามอง

Republican Democrat   ข้อมูลส่วนตัว Donald Trump CEO, Trump Organization website: www.donaldjtrump.com Hillary Clinton Former U.S. Secretary of State website: www.hillaryclinton.com Bernie Sanders U.S. Senator, Vermont website : www.berniesanders.com   นโยบาย เศรษฐกิจ รักษาระดับค่าจ้างขั้นต่ำโดยไม่ปรับขึ้น เพิ่มการเก็บภาษีสินค้านำเข้าเพื่อ สนับสนุนสินค้ากลุ่มอุตสาหกรรม ภายในประเทศ ขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำเป็น 15 ดอลลาร์ สหรัฐฯ ต่อชั่วโมง และกระตุ้นรายได้ ของผู้มีรายได้ระดับกลาง สนับสนุนการผ่อนคลายกฎระเบียบ ที่ควบคุมอุตสาหกรรมในตลาดเงิน เช่น ผ่อนคลายความเข้มงวดของ กฎระเบียบที่ควบคุมธนาคารขนาดเล็ก กำหนดอัตราดอกเบี้ยบัตรเครดิต ขั้นสูงไม่เกิน 15% ผลักดันการลดจำนวนธนาคาร ขนาดใหญ่ กีดกันการเข้าถึงหน้าต่างตั้งรับ ของธนาคารกลาง (Fed’s discount facility) ของธนาคารขนาดใหญ่ ผู้อพยพ สร้างกำแพงยาว 2,000 ไมล์ กั้นพรมแดนสหรัฐฯ – เม็กซิโก ยกเลิกการให้สัญชาติแก่เด็ก ที่กำเนิดจากผู้อพยพซึ่งมิได้ขึ้น ทะเบียน สนับสนุนกฎหมายในระดับวุฒิสภา ในการให้สัญชาติผู้อพยพที่เป็นเด็ก ลงนามในกฎหมายการให้สัญชาติ ผู้อพยพที่เป็นเด็ก แต่ยังคงชะลอ การให้สัญชาติแก่ผู้ปกครองของ เด็กอพยพ ความมั่นคง ไม่เห็นด้วยกับข้อตกลงนิวเคลียร์ ของประธานาธิบดี Barack Obama โดยให้ความเห็นว่า เป็นข้อตกลง หายนะ แต่ยังคงมีแนวคิดที่จะจัดการ กับประเด็นดังกล่าว สนับสนุนข้อตกลงนิวเคลียร์ของ ประธานาธิบดี Barack Obama แต่เฉพาะในส่วนซึ่งเกี่ยวข้องกับ อิหร่าน สนับสนุนข้อตกลงนิวเคลียร์ ซึ่งตกลงกับอิหร่าน ภาษี ป้องกันการหลบเลี่ยงภาษีจาก ดอกเบี้ยประเภท carried interest ของ hedged fund ยกเลิกภาษีมรดกและภาษีสินสมรส เก็บภาษีเพิ่มเติม 4% สำหรับผู้มีรายได้ เกินกว่า 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปี เพิ่มเพดานภาษีสูงสุดเป็น 45% ลดเกณฑ์ขั้นต่ำของการยกเว้นภาษี ทรัพย์สินเป็น 3.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ลดภาษีสำหรับนักศึกษาในระดับ วิทยาลัยที่จ่ายค่าเล่าเรียน โดยสูงสุด ที่ 2,500 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อคน เสนอให้มีการจัดเก็บภาษีทรัพย์สิน ประเภทมรดกในอัตราก้าวหน้า สำหรับสินทรัพย์ที่เกินกว่า 3.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เสนอให้ปรับเพิ่มภาษีกำไรจาก ส่วนต่างราคา (capital gain tax) และเงินปันผลขึ้นหนึ่งเท่าตัว จาก 20% เป็น 39.6%

คลิกอ่านฉบับเต็ม