SHARE
FLASH
08 เมษายน 2011

ธนาคารกลางยุโรปปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายครั้งแรกนับตั้งแต่วิกฤต Subprime

ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% จาก 1% เป็น 1.25% ตามที่ตลาดคาดการณ์ โดยเป็นการปรับขึ้นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปี 2551 และเป็นประเทศแรกในกลุ่ม G3 (สหรัฐฯ กลุ่มประเทศยูโร และญี่ปุ่น) ที่เริ่มปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบาย

ผู้แต่ง : มันทนา เลิศชัยทวี

158673029.jpg

Event.png

885_20100622103059.gif

ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% จาก 1% เป็น 1.25% ตามที่ตลาดคาดการณ์ โดยเป็นการปรับขึ้นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปี 2551 และเป็นประเทศแรกในกลุ่ม G3 (สหรัฐฯ กลุ่มประเทศยูโร และญี่ปุ่น) ที่เริ่มปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบาย

Analysis.png

884_20100622103051.gif

  • ECB จำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพื่อควบคุมเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น โดยเงินเฟ้อของกลุ่มประเทศยูโรเร่งสูงขึ้นหลายเดือนติดต่อกันโดยล่าสุดมาอยู่ที่ 2.6 % ในเดือนมีนาคม ซึ่งสูงกว่าอัตราเงินเฟ้อเป้าหมายของ ECB ที่ 2% ทั้งนี้จากการคาดหมายว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในครั้งนี้ส่งผลให้เงินยูโรทยอยแข็งค่าขึ้นแล้วกว่า 3% นับตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคม
  • การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวอาจทำให้ความเสี่ยงหนี้สาธารณะในยุโรปเพิ่มขึ้น เนื่องจากการดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดมากขึ้นจะทำให้ต้นทุนการระดมทุนของรัฐบาลรวมทั้งธนาคารพาณิชย์ในกลุ่มประเทศยูโรสูงขึ้น ทั้งนี้ ECB ตัดสินใจขึ้นอัตราดอกเบี้ยแม้ว่าโปรตุเกสซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศสมาชิกเพิ่งขอรับความช่วยเหลือทางการเงินก่อนหน้าการประชุมของ ECB เพียงหนึ่งวัน  
  • คาดว่าการปรับขึ้นดอกเบี้ยน่าจะค่อยเป็นค่อยไป เนื่องจากยังมีความเสี่ยงในหลายประเทศที่ประสบปัญหาหนี้สาธารณะ โดย ECB ระบุว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายครั้งนี้ไม่ได้เป็นการส่งสัญญาณว่าเป็นการเข้าสู่วัฏจักรดอกเบี้ยขาขึ้น เนื่องจากเกรงว่าการขึ้นดอกเบี้ยเร็วเกินไปจะส่งผลให้ประเทศที่มีปัญหาหนี้สาธารณะมีต้นทุนทางการเงินเพิ่มขึ้นอีก อย่างไรก็ตาม หากเงินเฟ้อยังเร่งสูงขึ้นต่อเนื่องก็อาจเป็นแรงกดดันให้ ECB ต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วขึ้นได้
Implication.png

886_20100622103105.gif

  • ในระยะสั้น เงินดอลลาร์สหรัฐฯ มีแนวโน้มอ่อนค่าลงและทำให้เงินบาทรวมทั้งเงินสกุลอื่นๆ ในเอเชียมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้น การที่ ECB ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ ยังมีแนวโน้มดำเนินนโยบายผ่อนคลาย ทำให้มีแนวโน้มที่เงินทุนจะไหลออกจากสหรัฐฯ มากขึ้นและส่งผลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินยูโร อย่างไรก็ตาม ยังต้องจับตาดูปัญหาหนี้สาธารณะในยุโรปที่ยังไม่จบ ซึ่งอาจทำให้เงินยูโรอ่อนค่าลงได้หากมีข่าวร้ายออกมาอีก

Get the additional info

ธนาคารมีการใช้เทคโนโลยี เช่น คุกกี้ (cookies) และเทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกันบนเว็บไซต์ของธนาคาร เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น โปรดอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ นโยบายการใช้คุกกี้ของธนาคาร
ยอมรับ