เผยแพร่ใน EIC Outlook ฉบับไตรมาส 4/2020 คลิกอ่านฉบับเต็ม
ราคาน้ำมัน (USD/บาร์เรล)
|
2019
|
2020F |
2021F |
(ค่าเฉลี่ย) |
Q1 |
Q2 |
Q3 |
Q4 |
เฉลี่ย |
Q1 |
Q2 |
Q3 |
Q4F |
เฉลี่ย* |
ช่วงราคา** |
เฉลี่ย** |
ราคาน้ำมันดิบ WTI
|
55 |
60 |
56 |
57 |
57 |
46 |
28 |
41 |
42 |
39 |
38-40 |
48 |
ราคาน้ำมันดิบ Brent |
63 |
68 |
62 |
63 |
64 |
51 |
32 |
43 |
44 |
42 |
41-43 |
50 |
*ประมาณการราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยต่อปี กรณีฐาน โดย EIC
**ช่วงราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยปี 2020 และราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยปี 2021 กรณีฐาน ประมาณการโดย Leading global houses 4 ราย (ณ 16 พ.ย. 2020)
EIC’s view: Bulls
EIC มองว่าราคาน้ำมันดิบในไตรมาส 4 ปี 2020 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเทียบกับไตรมาส 3 โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการฟื้นตัวของอุปสงค์น้ำมัน และข่าวดีเรื่องวัคซีน COVID-19 โดยในไตรมาส 4 จะมีความต้องการน้ำมันสูงขึ้นตามฤดูกาลเพื่อทำความร้อนซึ่งเป็นช่วงหน้าหนาว อีกทั้งเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มฟื้นตัว ซึ่ง IMF ได้ปรับตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปี 2020 ดีขึ้นจาก -5.2% (คาดการณ์เดือนมิถุนายน 2020) เป็น -4.4% (คาดการณ์เดือนตุลาคม 2020) นอกจากนี้ ผลสำเร็จของการพัฒนาวัคซีนป้องกัน COVID-19 จะเป็น upside ให้กับอุปสงค์และราคาน้ำมัน อย่างไรก็ตาม การเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันถูกจำกัดจากปัจจัยของจำนวนผู้ติดเชื้อ COVID-19 ที่สูงขึ้นต่อเนื่อง และหลายประเทศโดยเฉพาะในยุโรปได้ออกมาตรการ lockdown รอบที่สอง รวมถึงจำกัดการเดินทาง จะส่งผลให้การฟื้นตัวของอุปสงค์น้ำมันอาจน้อยกว่าที่คาด สำหรับราคาน้ำมันดิบในปี 2021 EIC มองว่ามีแนวโน้มสูงขึ้นจากปี 2020 โดยได้ปัจจัยสนับสนุนจากการเติบโตของเศรษฐกิจโลก โดย IMF ประเมินว่าในปี 2021 เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มขยายตัว 5.2% (คาดการณ์เดือนตุลาคม 2020) และสมมติฐานความสำเร็จของการพัฒนาวัคซีน COVID-19 ที่นำมาฉีดให้กับประชากรในประเทศต่าง ๆ ส่งผลให้มีความต้องการใช้น้ำมันสูงขึ้นจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจ การขนส่งสินค้า และการเดินทางท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศที่ขยายตัวสูงขึ้นตามลำดับ ในขณะที่อุปทานน้ำมันโลกในปี 2021 แม้จะขยายตัวเพิ่มสูงขึ้นเทียบกับปีก่อนหน้า มาอยู่ที่ 98.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน แต่ปริมาณดังกล่าวยังน้อยกว่าอุปสงค์โลกที่ 98.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดย OPEC+ ยังคงทำการลดปริมาณการผลิตขนาด 7.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน เริ่มเดือนมกราคมปี 2021 ในส่วนของลิเบียที่ได้เพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมันหลังสถานการณ์ทางการเมืองคลี่คลายลง EIC มองว่าจะไม่ส่งผลกระทบทางลบต่อราคาน้ำมันอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากปริมาณการผลิตของลิเบียที่เพิ่มขึ้นไม่น่าจะทำให้ตลาดน้ำมันกลับมามีอุปทานส่วนเกินในปี 2021 นี้
|
BULLs |
BEARs |
-
อุปสงค์น้ำมันโลกฟื้นตัวในไตรมาส 4 ปี 2020 ต่อเนื่องถึงปี 2021 ทำให้ตลาดน้ำมันมีอุปสงค์มากกว่าอุปทานน้ำมัน (deficit) จึงเป็นปัจจัยสนับสนุนต่อราคาน้ำมันดิบ จากวิกฤติ COVID-19 ทำให้ความต้องการน้ำมันลดลงอย่างรุนแรง ส่งผลให้ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2020 ตลาดน้ำมันมีอุปทานส่วนเกินมากถึง 6.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน อย่างไรก็ตาม ช่วงครึ่งปีหลังของปี 2020 อุปสงค์น้ำมันค่อย ๆ ฟื้นตัวขึ้นตามการฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ การเดินทาง การขนส่ง รวมถึงความต้องการใช้น้ำมันเพื่อทำความร้อนในช่วงฤดูหนาว ทั้งนี้ EIA ประเมินอุปสงค์น้ำมันในไตรมาส 4 ปี 2020 ขยายตัวสูงขึ้น 2.8%QOQ มาอยู่ที่ 96.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในขณะที่อุปทานน้ำมันขยายตัว 2.8%QOQ มาอยู่ที่ 93.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน หรือมีอุปสงค์มากกว่าอุปทานราว 3.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน สำหรับตลาดน้ำมันในปี 2021 EIA คาดว่าอุปสงค์น้ำมันมีแนวโน้มสูงขึ้น 6.3%YOY มาอยู่ที่ 98.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน ส่วนอุปทานน้ำมันขยายตัวเพียง 4.2%YOY มาอยู่ที่ 98.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน หรือมีอุปสงค์มากกว่าอุปทานราว 4.2 แสนบาร์เรลต่อวัน แต่ปริมาณอุปสงค์และอุปทานดังกล่าวยังน้อยกว่าปริมาณในปี 2019 ก่อนเกิดวิกฤติ COVID-19 ที่มีระดับมากกว่า 100 ล้านบาร์เรลต่อวัน
-
สมาชิกกลุ่ม OPEC ร่วมมือกันลดปริมาณการผลิตน้ำมันได้ตามเป้าหมาย และมีแผนลดปริมาณการผลิตไปจนถึงปี 2021 โดยข้อมูลในเดือนกันยายน 2020 Compliance rate ของกลุ่ม OPEC อยู่ที่ 101% โดยมีปริมาณการผลิตน้ำมันรวม 21.78 ล้านบาร์เรลต่อวัน น้อยกว่าโควตาการผลิตที่ตกลงกันไว้ที่ 21.82 ล้านบาร์เรลต่อวัน (ไม่รวมอิหร่าน ลิเบีย และเวเนซุเอลา ที่ได้รับการยกเว้นในข้อตกลง) นอกจากนี้ OPEC และพันธมิตรนำโดยรัสเซีย (OPEC+) ร่วมมือกันลดปริมาณการผลิตขนาด 7.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน (คิดเป็น 8% ของอุปทานน้ำมันโลก) ตั้งแต่เดือนสิงหาคม-ธันวาคม 2020 และล่าสุดที่ประชุมของกลุ่ม OPEC+ เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2020 ได้บรรลุข้อตกลงร่วมกันที่จะลดการผลิตน้ำมันขนาด 7.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน เริ่มเดือนมกราคม ปี 2021 เพื่อปรับสมดุลตลาดน้ำมันโลก
|
-
การ lockdown รอบ 2 ของหลายประเทศ เป็นปัจจัยกดดันต่อการฟื้นตัวของความต้องการใช้น้ำมัน จำนวนผู้ติดเชื้อ COVID-19 ทั่วโลกเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง โดยในช่วงเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน 2020 มีจำนวนมากถึง 5-6 แสนคนต่อวัน ทำให้หลายประเทศออกมาตรการ lockdown รอบที่ 2 หรือจำกัดการเดินทาง เช่น ฝรั่งเศส อังกฤษ เบลเยี่ยม สาธารณรัฐเช็ก กดดันการฟื้นตัวของอุปสงค์น้ำมัน ซึ่งหน่วยงานต่าง ๆ ได้ปรับลดตัวเลขคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันโลก เช่น OPEC ปรับลดปริมาณอุปสงค์น้ำมันโลกในไตรมาส 4 ปี 2020 จาก 94.9 เป็น 93.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน สำหรับ EIA ปรับลดตัวเลขดังกล่าวจาก 97.1 เป็น 96.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน1
-
สถานการณ์การเมืองในลิเบียเริ่มคลี่คลาย ส่งผลให้ปริมาณการผลิตน้ำมันในลิเบียมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น รัฐบาลของลิเบียที่สหประชาชาติรองรับ (Government of National Accord: GNA) และกองทัพแห่งชาติลิเบีย (Libya National Army: LNA) ทำข้อตกลงหยุดยิง และยกเลิกการปิดล้อมแหล่งผลิตและท่าเรือส่งออกน้ำมันเมื่อเดือนกันยายน 2020 ส่งผลให้ปริมาณการผลิตน้ำมันของลิเบียเพิ่มขึ้นจาก 1 แสนบาร์เรลต่อวันในเดือนกันยายน 2020 เป็น 1 ล้านบาร์เรลต่อวันในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน 2020 นับเป็นการฟื้นตัวของการผลิตน้ำมันที่กลับมาค่อนข้างรวดเร็ว ทั้งนี้ลิเบียวางเป้าการผลิตน้ำมันจะเพิ่มขึ้นเป็น 1.3 ล้านบาร์เรลต่อวันในช่วงต้นปี 2021 คิดเป็นสัดส่วนราว 1% ของอุปทานน้ำมันโลก
|