SHARE
FLASH
11 มกราคม 2010

งบไทยเข้มแข็ง ยังเหลือที่ยังไม่ได้ทำสัญญาจัดซื้อจัดจ้างอีกกว่า 1.2 แสนล้านบาท

สถานะการเบิกจ่ายงบประมาณไทยเข้มแข็งในส่วน 2 แสนล้านบาทแรก ณ วันที่ 1 มกราคม 2553 พบว่ามีการเบิกจ่ายทั้งสิ้น 2.6 หมื่นล้านบาท หรือ 13% ของวงเงินทั้งหมด โดยกว่าครึ่ง (1.5 หมื่นล้านบาท) ของการเบิกจ่ายเป็นเงินโอนเพื่อการเพิ่มทุนธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ อีกหนึ่งในสาม (8.6 พันล้านบาท) เป็นโครงการสาขาขนส่งซึ่งเน้นไปที่การซ่อมแซมทางหลวง สถานะการเบิกจ่ายงบประมาณไทยเข้มแข็งในส่วน 2 แสนล้านบาทแรก ณ วันที่ 1 มกราคม 2553 พบว่ามีการเบิกจ่ายทั้งสิ้น 2.6 หมื่นล้านบาท หรือ 13% ของวงเงินทั้งหมด โดยกว่าครึ่ง (1.5 หมื่นล้านบาท) ของการเบิกจ่ายเป็นเงินโอนเพื่อการเพิ่มทุนธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ อีกหนึ่งในสาม (8.6 พันล้านบาท) เป็นโครงการสาขาขนส่งซึ่งเน้นไปที่การซ่อมแซมทางหลวง

ผู้แต่ง : พรเทพ ชูพันธุ์

477529807-s.jpg

 

Event.png

885_20100622103059.gif

  • สถานะการเบิกจ่ายงบประมาณไทยเข้มแข็งในส่วน 2 แสนล้านบาทแรก ณ วันที่ 1 มกราคม 2553 พบว่ามีการเบิกจ่ายทั้งสิ้น 2.6 หมื่นล้านบาท หรือ 13% ของวงเงินทั้งหมด โดยกว่าครึ่ง (1.5 หมื่นล้านบาท) ของการเบิกจ่ายเป็นเงินโอนเพื่อการเพิ่มทุนธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ อีกหนึ่งในสาม (8.6 พันล้านบาท) เป็นโครงการสาขาขนส่งซึ่งเน้นไปที่การซ่อมแซมทางหลวง

 

Analysis.png

884_20100622103051.gif

  • การเบิกจ่ายงบไทยเข้มแข็งเป็นไปอย่างช้าๆ ตามคาด โดยปรกติขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้างโครงการใหม่ๆ มักใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 3 เดือน ดังนั้นโครงการไทยเข้มแข็งซึ่งได้รับการอนุมัติในช่วงปลายไตรมาส 3 ปี 2552 จึงยังเบิกจ่ายไม่ได้มากนักในปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ จากงบประมาณ ส่วนที่เบิกจ่ายไปแล้ว 2.6 หมื่นล้าน ถ้าหักเงินโอนเพิ่มทุนธนาคารจำนวน 1.5 หมื่นล้านบาทออกไป จะพบว่า การเบิกจ่ายสำหรับโครงการอื่นๆ ทำไปได้เพียง 1.2 หมื่นล้านเท่านั้น ซึ่งหลักๆ ก็เป็นงบในสาขาขนส่ง

    งบสาขาขนส่งที่เบิกจ่ายเร็ว อาจไม่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจนอกเหนือไปจากกิจกรรมตามปรกติมากนัก ทั้งนี้ ข่าวดีคืองบในสาขาขนส่งเบิกจ่ายได้เร็วกว่าคาด แต่ข่าวร้ายคือการที่เบิกจ่ายได้เร็วแบบนี้สะท้อนว่าโครงการประเภทซ่อมบำรุงถนนดังกล่าวน่าจะอยู่ในแผนซ่อมบำรุงตามปรกติอยู่แล้ว ถึงแม้ไม่มีงบไทยเข้มแข็งการซ่อมถนนก็จะมาจากงบประจำปีอยู่ดี โครงการสาขาขนส่งส่วนนี้จึงไม่น่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมจากกิจกรรมตามปรกติของภาครัฐได้มากนัก เพราะเป็นแค่การเปลี่ยนแหล่งเงินทุนเท่านั้น

    ยังเหลืองบส่วนที่ยังไม่ได้ทำสัญญาจัดซื้ออีกกว่า 1.2 แสนล้านบาท งบส่วนที่ยังไม่ได้เซ็นสัญญาจัดซื้อจัดจ้างหลักๆ อยู่ในสาขาทรัพยากรน้ำและเกษตร 4.8 หมื่นล้านบาท (ขุดแหล่งน้ำขนาดเล็ก ซ่อมแซมอาคารและระบบชลประทาน) การศึกษา 2.8 หมื่นล้านบาท (พัฒนาครู และระบบ IT) สาขาขนส่ง 1.3 หมื่นล้านบาท (ซ่อมบำรุงทางหลวง ลาดยางถนน) การลงทุนในระดับชุมชน 1.4 หมื่นล้านบาท (เน้นพัฒนาแรงงานในภาคใต้) และสาขาสาธารณสุข 1.2 หมื่นล้านบาท (ปรับปรุงอาคาร และครุภัณฑ์) 

1156_20100730101622.jpg

Implication.png

886_20100622103105.gif

คงมุมมอง GDP ปี 2553 ขยายตัว 3.5-4.0% งบไทยเข้มแข็งเบิกจ่ายได้ช้าตามคาด จึงน่าจะกระตุ้นเศรษฐกิจในปี 2553 ได้จำกัด เรายังคงมองว่าการฟื้นตัวจะมาจากปัจจัยการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ผ่านมาทางการส่งออก มากกว่าจะเกิดจากการฟื้นตัวของการบริโภคและลงทุนในประเทศ

สิ่งที่น่าสนใจสำหรับภาคธุรกิจคือประเภทของโครงการที่ยังไม่ได้ทำสัญญาจัดซื้อจัดจ้าง จากข้อมูลล่าสุด โครงการที่ยังไม่ได้ทำสัญญาจัดซื้อจัดจ้างหลักๆ เป็นประเภทก่อสร้างและการจ้างงานขนาดเล็ก ในสาขาแหล่งน้ำและการเกษตร การศึกษา การขนส่ง โดยกระจายอยู่ตามจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ ผู้ประกอบการที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก SCB EIC  (อีเมล์ : eic@scb.co.th
หรือจาก เว็บไซต์โครงการไทยเข้มแข็ง  (http://www.tkk2555.com/online/)

Get the additional info

ธนาคารมีการใช้เทคโนโลยี เช่น คุกกี้ (cookies) และเทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกันบนเว็บไซต์ของธนาคาร เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น โปรดอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ นโยบายการใช้คุกกี้ของธนาคาร
ยอมรับ