ศูนย์ทดสอบยานยนต์และยางล้อแห่งชาติ...แม่แรงยกระดับผู้ผลิตชิ้นส่วนอะไหล่ยานยนต์ สู่ New S-Curve

ศูนย์ทดสอบยานยนต์และยางล้อแห่งชาติ...แม่แรงยกระดับผู้ผลิตชิ้นส่วนอะไหล่ยานยนต์ สู่ New S-Curve

การก่อตั้งศูนย์ทดสอบยานยนต์และยางล้อแห่งชาติ ณ อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา คือหนึ่งในความพยายามร่วมกันของภาครัฐและเอกชน ในการพัฒนาและยกระดับศักยภาพในการผลิต และเทคโนโลยีของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยให้ทัดเทียมกับประเทศผู้ผลิตยานยนต์รายใหญ่ของโลก เช่น ญี่ปุ่น เยอรมนี สหรัฐอเมริกา โดยตั้งเป้าให้ศูนย์ทดสอบฯ แห่งนี้มีส่วนในการช่วยพัฒนาด้านเทคโนโลยีของผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไทยให้มีความพร้อมสำหรับการแข่งขันเพื่อรองรับเทคโนโลยียานยนต์ใหม่ๆ และช่วยดึงดูดการลงทุนใน New S-Curve ยานยนต์แห่งอนาคต นอกจากนี้ สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมยังลงทุนจัดตั้งศูนย์ทดสอบแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าแห่งแรกในอาเซียนตามมาตรฐาน UNECE R100 ซึ่งเป็นมาตรฐานความปลอดภัยของยานยนต์ไฟฟ้าชนิดแบตเตอรี่ 100% ภายในพื้นที่เดียวกัน โดยคาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ภายในไตรมาส 3 ปี 2020

ทั้งนี้จากการศึกษาบทบาทของศูนย์ทดสอบยานยนต์ในประเทศสำคัญอย่างญี่ปุ่น และเยอรมนี พบว่าทิศทางและนโยบายของศูนย์ทดสอบยานยนต์จะมีส่วนสำคัญในการช่วยสนับสนุนการพัฒนาและยกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์ในภาพรวมได้ เพื่อเอื้อให้เกิดการสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ สำหรับชิ้นส่วนรถยนต์ ตลอดจนการพัฒนาเทคโนโลยีและกระบวนการผลิตเพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการในการวางแผนและนำเทคโนโลยีการผลิตสมัยใหม่มาใช้ในกระบวนการผลิตไม่ว่าจะเป็นการใช้หุ่นยนต์อุตสาหกรรมหรือ ระบบปัญญาประดิษฐ์ รวมไปถึงการพัฒนาทักษะบุคลากรเพื่อให้ได้บุคลากรที่มีทักษะระดับสูงสามารถทำงานร่วมกับเครื่องจักรและหุ่นยนต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

อย่างไรก็ดี อีไอซีมองว่าการจัดตั้งศูนย์ทดสอบฯ เพียงอย่างเดียว อาจไม่เพียงพอที่จะดึงดูดเงินลงทุนใน New S-curve ยานยนต์แห่งอนาคตได้ ดังนั้นหากปราศจากนโยบายสนับสนุนที่ชัดเจนจากรัฐบาลเพื่อให้เกิดตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศ การลงทุนในอุตสาหกรรมยานยนต์แห่งอนาคตก็ไม่สามารถเกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมเพราะไทยไม่ใช่เจ้าของเทคโนโลยี จึงยังต้องพึ่งการลงทุนจากต่างชาติ ตัวอย่างเช่น ในกรณีของค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่รายหนึ่งจากเยอรมนีที่ได้ยกเลิกแผนการลงทุนประกอบรถยนต์ไฟฟ้าและเลื่อนแผนการนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้ามาจำหน่ายในประเทศไทยออกไปอย่างไม่มีกำหนด เนื่องจากมองว่าแผนการตลาดของบริษัทแม่และนโยบายสนับสนุนตลาดรถยนต์ไฟฟ้าของรัฐบาลไม่สอดรับกัน ดังนั้นภาครัฐจึงควรคำนึงถึงความต่อเนื่องและสอดคล้องของนโยบายที่ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องในห่วงโซ่การผลิตทั้งหมดเพื่อให้เกิด roadmap ร่วมกันในการดึงดูดนักลงทุนและหนุนบทบาทของไทยในการมุ่งไปสู่การเป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์แห่งอนาคตต่อไป ซึ่งรวมถึงการจัดตั้งศูนย์ทดสอบยานยนต์แห่งชาติ การกำหนดเขตเศรษฐกิจพิเศษ และนโยบายสนับสนุนการลงทุนรถยนต์ไฟฟ้า เพื่อรองรับเทคโนโลยีใหม่ๆ ในอนาคต

อีไอซีมองว่าการจัดตั้งศูนย์ทดสอบยานยนต์และยางล้อแห่งชาติ ยังมีบทบาทในการช่วยสนับสนุนและพัฒนาผู้ผลิตชิ้นส่วนอะไหล่สำหรับยานยนต์โดยเฉพาะผู้ประกอบการในกลุ่ม SME เนื่องจากสามารถขอใช้ศูนย์ทดสอบดังกล่าวในการวิจัยและพัฒนาชิ้นส่วนรถยนต์ของตนให้สอดคล้องตามมาตรฐานสากล อีกทั้งยังสามารถนำมาใช้ทดสอบจริงในพื้นที่ ซึ่งนอกจากจะช่วยลดต้นทุนและค่าใช้จ่ายในการส่งชิ้นส่วนเหล่านี้ไปทดสอบยังศูนย์ทดสอบในต่างประเทศแล้ว ยังสนับสนุนให้เกิดการวิจัยและพัฒนาชิ้นส่วนอะไหล่ทั้งสำหรับรถยนต์สันดาปภายในที่ยังคงมีวิ่งบนท้องถนนอีกกว่า 15 ล้านคัน หรือแม้แต่ชิ้นส่วนอะไหล่ของรถยนต์ไฟฟ้าที่จะเข้ามีบทบาทในตลาดอะไหล่รถยนต์มากขึ้นเรื่อยๆ ในอนาคต ซึ่งจะสนับสนุนตลาดชิ้นส่วนอะไหล่ในภูมิภาค เพื่อให้ไทยยังคงมีบทบาทในการเป็นฐานการผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ที่สำคัญของโลกต่อไป

                                                     

เผยแพร่ในกรุงเทพธุรกิจ คอลัมน์ smart eec วันที่ 4 ธันวาคม 2019