SHARE
SCB EIC ARTICLE
03 เมษายน 2018

BULL-BEAR: ราคาน้ำมัน

เผยแพร่ใน EIC Outlook ฉบับไตรมาส 2/2018 คลิกอ่านฉบับเต็ม 


ราคาน้ำมัน 
(USD/บาร์เรล)

2017F

2018F

2019F
(ค่าเฉลี่ย)  Q1 Q2 Q3 Q4 เฉลี่ย Q1F Q2F Q3F Q4F เฉลี่ย สูงสุด* ต่ำสุด* เฉลี่ย

ราคาน้ำมันดิบ WTI

52 48 48 55 51 62 61 59 58 60 70 58 56
ราคาน้ำมันดิบ Brent 54 50 52 61 54 66 65 63 62 64 78 62 60


*ข้อมูลจาก Leading global houses (14 กุมภาพันธ์ 2018)
ที่มา: การวิเคราะห์โดย EIC

 

EIC’s view: Bear
ราคาน้ำมันดิบในไตรมาส 2 ปี 2018 มีแนวโน้มทรงตัวเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจากอุปทานน้ำมันดิบยังคงล้นตลาดอยู่ และยังได้รับปัจจัยกดดันจากผู้ผลิต shale oil ในแหล่งสำคัญของสหรัฐฯ ที่เพิ่มแท่นขุดเจาะ และผลิตน้ำมันดิบออกมาสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ อย่างไรก็ตาม ต้องจับตาการประชุมของ OPEC ในเดือนมิถุนายน หากสามารถบรรลุข้อตกลงเรื่องขยายระยะเวลาลดปริมาณการผลิตน้ำมันออกไปจนถึงปี 2019 จะทำให้ราคาน้ำมันปรับระดับสูงขึ้นรับข่าวนี้

 

BULLs BEARs
  • ซาอุดีอาระเบียจะลดปริมาณการผลิตน้ำมันดิบลงอีก 1 แสนบาร์เรลต่อวัน จากที่มีโควตาการผลิตอยู่ราว 10 ล้านบาร์เรลต่อวัน ตามที่ได้ตกลงไว้กับสมาชิก OPEC ในการลดปริมาณการผลิตน้ำมันตั้งแต่เดือนมกราคม 2017 และจะรักษาระดับการส่งออกน้ำมันให้อยู่ต่ำกว่า 7 ล้านบาร์เรลต่อวัน เพื่อลดอุปทานน้ำมันส่วนเกินในตลาดโลกให้เข้าสู่สมดุล จะเป็นปัจจัยหนุนราคาน้ำมันให้ปรับสูงขึ้น

     

  • รัสเซียและจีนมีแผนลงทุนหุ้น IPO ของ Saudi Aramco บริษัทน้ำมันแห่งชาติของซาอุดีอาระเบีย ที่เตรียมจะเสนอขายหุ้นช่วงครึ่งปีหลังของปี 2018 ในสัดส่วน 5% ของมูลค่าบริษัท คิดเป็นเงินราว 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จะเป็นปัจจัยทางจิตวิทยาที่จะส่งผลทางบวกต่อราคาน้ำมัน ทั้งนี้ นอกเหนือจากซาอุฯ จะพยายามผลักดันให้ราคาน้ำมันสูงขึ้น
    เพื่อเป็นผลดีต่อราคาหุ้น ของ Saudi Aramco แล้ว นักลงทุนจะมีความเชื่อมั่นต่อการลงทุนในโครงการน้ำมันต่างๆ และราคาน้ำมันที่คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่อง

     

  • การประชุมของกลุ่ม OPEC ในเดือนมิถุนายนนี้ ที่กรุงเวียนนา ออสเตรีย คาดว่าจะมีการตกลงขยายระยะเวลาลดปริมาณการผลิตน้ำมันดิบออกไปจนถึงครึ่งปีแรกของปี 2019 โดยประเทศที่สนับสนุนข้อตกลงนี้ ได้แก่ ซาอุดีอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ รวมถึง รัสเซีย ที่เป็นประเทศกลุ่ม Non-OPEC รายใหญ่ที่ได้เข้าร่วมข้อตกลงลดปริมาณการผลิตน้ำมันกับกลุ่ม OPEC

  • อุปทานน้ำมันดิบโลกในไตรมาส 2 ปี 2018 ที่ยังคงล้นตลาดอยู่ราว 5.5 แสนบาร์เรลต่อวัน จะเป็นปัจจัยลบต่อราคาน้ำมันดิบ ทั้งนี้ สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐฯ (EIA) ประเมินอุปทานน้ำมันดิบจะปรับระดับสูงขึ้นในไตรมาส 2 มาอยู่ที่ 100.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในขณะที่อุปสงค์มีอยู่ราว 99.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งอุปทานน้ำมันที่คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตมากที่สุด มาจากผู้ผลิตในสหรัฐฯ ที่จะขุดเจาะน้ำมันทั้ง conventional oil และ shale oil ออกมาราว 17.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน ขยายตัวถึง 12%YOY

     

  • แท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐฯ เดือนกุมภาพันธ์ 2018 เพิ่มขึ้นเป็น 791 แท่น สูงที่สุดตั้งแต่เดือนเมษายน 2015 เป็นตัวชี้วัดสะท้อนถึงแนวโน้มการผลิตน้ำมันในสหรัฐฯ ที่จะขยายตัวสูงขึ้นในอนาคต ทั้งนี้ แท่นขุดเจาะเกินกว่าครึ่งตั้งอยู่ในแหล่ง Permian ซึ่งคาดว่าจะมีการผลิตน้ำมันในแหล่งนี้สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ถึง 2.9 ล้านบาร์เรลต่อวัน คิดเป็นสัดส่วน 30% ของการผลิตน้ำมันทั้งหมดในสหรัฐฯ ทั้งนี้ การที่แหล่ง Permian มีแท่นขุดเจาะจำนวนมาก แต่ผลิตน้ำมันออกมาได้เพียง 30% เนื่องมาจากผลิตภาพการขุดเจาะ (Drilling Productivity) ของแหล่ง Permian อยู่ในระดับต่ำ ราว 500 บาร์เรลต่อวันต่อแท่น เทียบกับแหล่งอื่นๆ อย่าง Bakken หรือ Eagle Ford ที่อยู่ในระดับสูงถึงเกือบ 1,400 บาร์เรลต่อวันต่อแท่น

 

 

ธนาคารมีการใช้เทคโนโลยี เช่น คุกกี้ (cookies) และเทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกันบนเว็บไซต์ของธนาคาร เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น โปรดอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ นโยบายการใช้คุกกี้ของธนาคาร
ยอมรับ