SHARE
SCB EIC ARTICLE
16 ตุลาคม 2017

Health Tech กับโอกาสของธุรกิจบริการสุขภาพในยุค 4.0

ในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันแทบจะทุกด้าน หนึ่งในเทคโนโลยีที่มาแรงไม่แพ้เทคโนโลยีอื่นๆ คือ เทคโนโลยีสุขภาพหรือที่เรียกสั้นๆ ว่า “Health Tech” ซึ่งมีแนวโน้มเติบโตแบบก้าวกระโดด สะท้อนได้จากจำนวน startup ใหม่ๆ

ผู้เขียน: ปราณิดา ศยามานนท์

เผยแพร่ในประชาชาติธุรกิจ วันที่ 16 ตุลาคม 2017

 

iStock-614731472.jpg

 

ในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันแทบจะทุกด้าน หนึ่งในเทคโนโลยีที่มาแรงไม่แพ้เทคโนโลยีอื่นๆ คือ เทคโนโลยีสุขภาพหรือที่เรียกสั้นๆ ว่า “Health Tech” ซึ่งมีแนวโน้มเติบโตแบบก้าวกระโดด สะท้อนได้จากจำนวน startup ใหม่ๆ ที่เริ่มให้ความสนใจพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และมีเงินสนับสนุนลงทุน (funding) เติบโตต่อเนื่องถึงราว 42% ต่อปีในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา (2010-2016) ล่าสุดในปี 2016 แตะระดับ 9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยส่วนใหญ่เป็นเงินลงทุนใน startup ด้านเครื่องมือแพทย์และเทคโนโลยีพันธุกรรม เห็นได้จากการพัฒนาเครื่องมือแพทย์ใหม่ๆ ทำให้การรักษาโรคมีความแม่นยำมากขึ้นเนื่องจากมีการวิเคราะห์ไปถึงระดับพันธุกรรมและไลฟ์สไตล์ของแต่ละบุคคล หรือมีการนำเอาหุ่นยนต์เข้ามาช่วยเสริมในการผ่าตัดทำให้เกิดความแม่นยำ ตลอดจนการนำเอาเทคโนโลยี 3D printing มาใช้ในอุปกรณ์ฝังในร่างกาย ไม่เพียงแต่การพัฒนาเทคโนโลยีในด้านการรักษาเท่านั้น แต่แนวโน้ม Health Tech ยังเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของผู้บริโภคมากขึ้นและจะเป็นหนึ่งในตัวช่วยสำคัญที่ตอบโจทย์เทรนด์ของการป้องกันโรคก่อนที่จะต้องไปรักษาในภายหลัง ทำให้ผู้บริโภคเข้าถึงข้อมูลด้านสุขภาพได้มากขึ้น ตลอดจนการเชื่อมต่อไปยังผู้ให้บริการสุขภาพต่างๆ ได้สะดวก รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากขึ้น

 

Heath Tech ที่มาแรงในยุคนี้ คือ นวัตกรรมสุขภาพไร้สาย (wireless health) และอุปกรณ์สุขภาพเคลื่อนที่ (mobile health) ซึ่งมีแนวโน้มพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ จากข้อมูลของ Statista พบว่าตลาด Health Tech ของโลกเติบโตถึงราว 20% ต่อปีในช่วงปี 2015-2017 และยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง คาดว่ามูลค่าตลาดจะเพิ่มขึ้นเป็น 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2020 โดยเฉพาะตลาด mobile health ที่เติบโตสูงถึงราว 42% ต่อปี สำหรับภูมิภาคเอเชีย Health Tech ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น เทคโนโลยีส่วนใหญ่จะเน้นไปที่ผู้บริโภค สะท้อนได้จากการที่ startup ใหม่ๆ จะเน้นพัฒนาเครื่องมือค้นหาข้อมูลด้านสุขภาพที่ทำให้ผู้บริโภคสามารถจัดการในด้านสุขภาพด้วยตัวเองได้มากขึ้น ที่น่าจับตามองคงหนีไม่พ้นการเชื่อมต่อการแพทย์กับโลกอินเทอร์เน็ต (Internet of Medical Things: IoMT) ซึ่งสอดรับกับแนวโน้มการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตของผู้บริโภคในภูมิภาคนี้ที่เติบโตแบบก้าวกระโดด ตัวอย่างของ IoMT ที่เห็นได้ชัดคือ อุปกรณ์สวมใส่ (wearable devices) ด้านสุขภาพซึ่งมีความหลากหลาย ทำงานได้ซับซ้อนมากขึ้นจากเดิมที่ผู้บริโภคส่วนใหญ่จะคุ้นชินแค่อุปกรณ์สวมใส่ด้านการออกกำลังกาย แต่ปัจจุบันได้มีการพัฒนาเพื่อตอบโจทย์ในด้านการรักษาพยาบาลมากขึ้น เช่น อุปกรณ์วัดระดับน้ำตาลในเลือดแบบสวมใส่ วัดระดับออกซิเจนในเลือด ซึ่งอุปกรณ์เหล่านี้สามารถช่วยให้ผู้ป่วยตรวจสอบอาการของตนเองได้ตลอดเวลาและยังส่งต่อข้อมูลไปยังแพทย์ได้โดยตรง ซึ่งจะช่วยให้การรักษามีประสิทธิภาพมากขึ้น

 

graph_article_prachachart.jpg

 

ในยุคที่ Health Tech กำลังมาแรง หลายคนอาจเกิดความสงสัยว่า Health Tech จะส่งผลกระทบในเชิงลบต่อธุรกิจบริการสุขภาพหรือไม่? แนวโน้มการใช้หุ่นยนต์ผ่าตัดจะทำให้แพทย์มีงานน้อยลงหรือไม่? สำหรับธุรกิจบริการสุขภาพนั้น Health Tech น่าจะเป็นตัวช่วยที่ทำให้การรักษามีความแม่นยำมากขึ้น อีกทั้งยังสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจมากกว่าที่จะไป disrupt ธุรกิจ คำถามที่ตามมาคือแล้วธุรกิจบริการสุขภาพจะเตรียมปรับตัวคว้าโอกาสอย่างไร? ตัวอย่างหนึ่งคือการใช้ Health Tech ในการสร้างความผูกพันกับผู้ป่วย (patient engagement) ซึ่งหมายถึงการที่ผู้ป่วยจะมีส่วนร่วมในการตัดสินใจและช่วยให้ผลการรักษามีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยอาจประยุกต์ใช้จากอุปกรณ์สวมใส่ด้านสุขภาพและแอปพลิเคชันต่างๆ ที่ถูกพัฒนาขึ้นจนสามารถเชื่อมโยงข้อมูลไปยังผู้ให้บริการด้านสุขภาพได้ ตัวอย่างเช่น “Health2Sync” ซึ่งถูกพัฒนาโดย Startup ของไต้หวัน โดยสามารถเชื่อมโยงข้อมูลจากเครื่องวัดระดับน้ำตาลในเลือดไปยังสมาร์ทโฟนของผู้ป่วยและสามารถส่งต่อข้อมูลไปยังแพทย์ได้ ทำให้แพทย์สามารถวินิจฉัยโรคและหาแนวทางการรักษาได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ อีกโอกาสของผู้ให้บริการสุขภาพยังสามารถต่อยอดมาจากแอปพลิเคชันที่ให้ข้อมูลด้านสุขภาพ ตัวอย่างเช่น “Ping An Good Doctor” ซึ่งถูกพัฒนาโดย Startup ของจีน เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยสามารถประเมินโรคเบื้องต้นและต่อยอดมาจนถึงการรับบริการในโรงพยาบาล โดยผู้ป่วยสามารถใช้เป็นช่องทางในการปรึกษาแพทย์ได้ผ่านทางข้อความ รูปภาพและวีดีโอ ซึ่งในไทยเอง ก็ได้มี startup ที่พัฒนาแอปพลิเคชันในลักษณะเช่นนี้แล้วอย่างเช่น Zeek Doc นอกจากนี้ ธุรกิจบริการสุขภาพยังสามารถใช้ประโยชน์ Health tech ในการวิเคราะห์ข้อมูล Big data โดยอาศัยประโยชน์จากการที่มีการจัดเก็บข้อมูลการรักษาพยาบาลในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยนำเอาข้อมูลมาใช้ประโยชน์ในการวิเคราะห์แนวทางการรักษาและต่อยอดมาถึงการรักษาเฉพาะบุคคลได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

เมื่อผู้ป่วยเข้าถึงข้อมูลและเครื่องมือต่างๆ ที่ใช้ในการตรวจสุขภาพเบื้องต้นของตนเองได้แล้ว น่าจะเป็นโอกาสสำหรับผู้ให้บริการสุขภาพในการพัฒนาบริการ Telehealth เพื่อช่วยเสริมบริการของโรงพยาบาลและตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดีกับสังคมผู้สูงอายุของไทยในอนาคตที่มีแนวโน้มต้องอยู่คนเดียวและต้องการบริการในเชิงเฝ้าติดตามและป้องกันมากขึ้น ตลอดจนปัญหาความแออัดของโรงพยาบาล ซึ่งผู้ป่วยโดยเฉพาะในกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรังที่ไม่ใช่กรณีฉุกเฉินต้องไปพบแพทย์อยู่สม่ำเสมอจะได้รับความสะดวกไม่ต้องเดินทางไปโรงพยาบาล แต่สามารถปรึกษาแพทย์ผ่านทางวีดีโออยู่ที่บ้านได้ ขณะเดียวกัน ยังอาจต่อยอดใช้ Health Tech รูปแบบต่างๆ ช่วยเสริมในการรักษา อาทิ อุปกรณ์สวมใส่ต่างๆ หรือแอปพลิเคชันเกี่ยวกับการสั่งซื้อยาที่เชื่อมโยงกับโรงพยาบาลได้โดยตรง Telehealth จึงน่าจะเป็นอีกหนึ่งบริการที่มีโอกาสเติบโตสูงในอนาคตและจะเข้ามามีบทบาทช่วยเสริมให้ประสิทธิภาพการบริหารจัดการของโรงพยาบาลดีขึ้น

 

ท่ามกลางโอกาสยังมีความท้าทายสำหรับธุรกิจบริการสุขภาพอีกมาก ไม่ว่าจะเป็นการเก็บรักษาข้อมูลผู้ป่วยทางอิเล็กทรอนิกส์อาจมีความเสี่ยงของระบบความปลอดภัยด้านไอที รวมถึงความสามารถในการนำข้อมูลผู้ป่วยซึ่งเป็นข้อมูลลับ หรือแม้แต่การนำเอาข้อมูลสุขภาพที่กระจัดกระจายจากหลายแหล่งทั้งข้อมูลจากสถานพยาบาลและอุปกรณ์สวมใส่ ข้อมูลจากแอปพลิเคชันต่างๆ มาใช้ในการวิเคราะห์ (Big data analytic) จะเป็นความท้าทายสำคัญ ตลอดจน ความเสี่ยงด้านเสถียรภาพของระบบเน็ตเวิร์คของโรงพยาบาล เนื่องจากมีอุปกรณ์เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตจำนวนมหาศาลตั้งแต่เครื่องมือแพทย์ ข้อมูลผู้ป่วย ตลอดจนอุปกรณ์สวมใส่หรือแอปพลิเคชันที่ผู้ป่วยมีการใช้งาน ซึ่งผู้ให้บริการสุขภาพเหล่านี้อาจต้องลงทุนพัฒนาระบบ IT หรือเครื่องมือในการวิเคราะห์ข้อมูลอย่างระบบปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) เพิ่มเติม ซึ่ง AI จะเข้ามามีบทบาทช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการวินิจฉัยโรคได้อย่างรวดเร็วและลดขั้นตอนต่างๆ ในโรงพยาบาล นอกจากนี้ ธุรกิจบริการสุขภาพยังต้องปรับตัวรับมือกับการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้น โดยสร้างความแตกต่างหรืออาจต้องหาตัวช่วยในการพัฒนาเทคโนโลยีอย่างเช่น การสนับสนุน funding ให้กับ startup ด้าน Health Tech ใหม่ๆ ขณะเดียวกันต้องไม่ลืมว่าการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้บริโภคยังคงเป็นปัจจัยสำคัญ เนื่องจากแนวโน้มผู้บริโภคยุค 4.0 สามารถเข้าถึงข้อมูลด้านสุขภาพได้มากขึ้นและมีทางเลือกหลากหลายมากขึ้น

ธนาคารมีการใช้เทคโนโลยี เช่น คุกกี้ (cookies) และเทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกันบนเว็บไซต์ของธนาคาร เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น โปรดอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ นโยบายการใช้คุกกี้ของธนาคาร
ยอมรับ