ASEAN Economic Community (AEC) กระทบธุรกิจโรงแรมอย่างไร
ธุรกิจโรงแรมมีแนวโน้มเผชิญความท้าทายจากการลงทุนของนักลงทุนอาเซียนไม่มากนักในระยะสั้นหลังจากเปิดเสรีเข้าสู่ยุค AEC โดยรูปแบบความท้าทายมีแนวโน้มอยู่ในรูปการเข้าซื้อและควบรวมกิจการมากกว่า นอกจากนี้ โรงแรมจะได้รับผลดีจากการมีแหล่งแรงงานจากอาเซียนมากขึ้น ธุรกิจโรงแรมมีแนวโน้มเผชิญความท้าทายจากการลงทุนของนักลงทุนอาเซียนไม่มากนักในระยะสั้นหลังจากเปิดเสรีเข้าสู่ยุค AEC โดยรูปแบบความท้าทายมีแนวโน้มอยู่ในรูปการเข้าซื้อและควบรวมกิจการมากกว่า นอกจากนี้ โรงแรมจะได้รับผลดีจากการมีแหล่งแรงงานจากอาเซียนมากขึ้น
ผู้เขียน: วิธาน เจริญผล
ธุรกิจโรงแรมมีแนวโน้มเผชิญความท้าทายจากการลงทุนของนักลงทุนอาเซียนไม่มากนักในระยะสั้นหลังจากเปิดเสรีเข้าสู่ยุค AEC โดยรูปแบบความท้าทายมีแนวโน้มอยู่ในรูปการเข้าซื้อและควบรวมกิจการมากกว่า นอกจากนี้ โรงแรมจะได้รับผลดีจากการมีแหล่งแรงงานจากอาเซียนมากขึ้น การเปิดเสรีด้านการขยายเพดานการถือหุ้นโดยนักลงทุนอาเซียนเป็น 70% จากข้อตกลงภายใต้ AEC มีแนวโน้มส่งผลกระทบต่อธุรกิจโรงแรมไม่มากนักในระยะเวลาอันใกล้ ปัจจุบันธุรกิจโรงแรมในไทยเป็นที่นิยมและดึงดูดการลงทุนจากนักลงทุนต่างชาติมากอยู่แล้วเมื่อเทียบกับธุรกิจอื่นๆ โดยมีสัดส่วนการถือหุ้นโดยนักลงทุนต่างชาติเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 30% ในขณะที่สัดส่วนเฉลี่ยโดยรวมของทุกธุรกิจอยู่ที่ประมาณ 20% อย่างไรก็ตาม ผลกระทบจากการที่เข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนซึ่งมีการขยายเพดานการลงทุนโดยนักลงทุนอาเซียนเป็น 70% อาจมีไม่มากนัก เพราะในปัจจุบันนักลงทุนต่างชาติยังลงทุนไม่เต็มเพดาน 49% ที่กฎหมายกำหนดไว้ ดังนั้น การขยายสัดส่วนการลงทุนโดยนักลงทุนอาเซียนเป็น 70% จึงจะไม่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจโรงแรมในทันที หากนักลงทุนอาเซียนจะเข้ามาลงทุนเพิ่มเติมในธุรกิจโรงแรมในไทย แนวโน้มการลงทุนน่าจะอยู่ในรูปของการซื้อและควบรวมกิจการมากกว่า เพราะตลาดห้องพักโรงแรมมีจำนวนค่อนข้างมากอยู่แล้วในปัจจุบัน ทั้งนี้ แนวโน้มการลงทุนสร้างโรงแรมใหม่โดยนักลงทุนอาเซียนจากการเปิดเสรีการค้าบริการและการลงทุนในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนอาจมีไม่มากนักเพราะปัจจุบันอัตราการเข้าพักโรงแรมโดยรวมของไทยอยู่ในระดับต่ำกว่าประเทศเพื่อนบ้าน (รูปที่ 1) สื่อให้เห็นว่าห้องพักโรงแรมที่มีอยู่ในปัจจุบันนั้นมีจำนวนมากเมื่อเทียบกับจำนวนนักท่องเที่ยว ดังนั้น แนวโน้มการเข้ามาลงทุนของนักลงทุนต่างชาติรวมถึงนักลงทุนอาเซียนจึงมีแนวโน้มเป็นรูปแบบการลงทุนในกิจการเดิมมากกว่าการสร้างโรงแรมใหม่ ธุรกิจโรงแรมจะได้รับประโยชน์จากการเปิดเสรีด้านการเคลื่อนย้ายแรงงานในอาเซียนมากขึ้น โดยเฉพาะแรงงานจากฟิลิปปินส์ซึ่งเป็นที่นิยมอยู่แล้วในธุรกิจนี้ ทั้งนี้ ข้อมูลยอดคงเหลือแรงงานต่างด้าวที่ทำงานในธุรกิจโรงแรมและภัตตาคารแสดงให้เห็นว่าแรงงานจากฟิลิปปินส์เป็นแรงงานอาเซียนที่มีสัดส่วนมากที่สุดในจำนวนแรงงานต่างด้าวที่อยู่ในธุรกิจโรงแรมและภัตตาคาร (รูปที่ 2) หนึ่งในหลายๆ เหตุผลคือทักษะด้านภาษาอังกฤษของแรงงานฟิลิปปินส์ซึ่งกลายเป็นข้อได้เปรียบแรงงานไทยโดยเฉพาะสำหรับโรงแรมที่มีลูกค้าต่างชาติเป็นสัดส่วนหลัก ดังนั้น การเข้าสู่ยุค AEC ซึ่งเอื้ออำนวยความสะดวกให้การเคลื่อนย้ายแรงงานเป็นได้ได้ง่ายขึ้นจึงจะส่งผลดีต่อธุรกิจโรงแรมในกรณีที่มีความต้องการแรงงานจากประเทศอาเซียน อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันประเทศไทยเป็นประเทศเดียวที่ยังไม่ได้ลงนามในข้อตกลงยอมรับคุณสมบัติร่วมในสาขาวิชาชีพท่องเที่ยว (Mutual Recognition Agreement in Tourism Professional) แต่คาดว่าจะลงนามเสร็จสิ้นในระยะเวลาอันใกล้ |
![]() |
|
|
|