SHARE
IN FOCUS
04 มีนาคม 2010

อัตราดอกเบี้ยนโยบาย และอัตราเงินเฟ้อจะเป็นอย่างไรในปี 2010

SCB EIC มองว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายน่าจะยังไม่ปรับขึ้นในครึ่งแรกของปี 2010 และจะปรับขึ้นเล็กน้อย ประมาณ 25-50 bps ในครึ่งหลังของปี ทำไม? การประมาณการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบายของเรามีสมมติฐานว่า (1) อัตราเงินเฟ้อปี 2553 จะสูงสุดในไตรมาส 1 และทรงตัวในไตรมาส 2 ก่อนจะค่อยๆ ชะลอลงในครึ่งหลังของปี และ (2) ธนาคารกลางของสหรัฐอเมริกาไม่น่าที่จะปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายขึ้นเร็วๆนี้

ผู้เขียน:   เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ / อัครพัชร์ เจริญพาณิช

156279982.jpg

 

SCB EIC มองว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายน่าจะยังไม่ปรับขึ้นในครึ่งแรกของปี 2010 และจะปรับขึ้นเล็กน้อย ประมาณ 25-50 bps ในครึ่งหลังของปี ทำไม?

การประมาณการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบายของเรามีสมมติฐานว่า (1) อัตราเงินเฟ้อปี 2553 จะสูงสุดในไตรมาส 1 และทรงตัวในไตรมาส 2 ก่อนจะค่อยๆ ชะลอลงในครึ่งหลังของปี และ (2) ธนาคารกลางของสหรัฐอเมริกาไม่น่าที่จะปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายขึ้นเร็วๆนี้


(1) อัตราเงินเฟ้อน่าจะอยู่ที่จุดสูงสุดในไตรมาส 1 และทรงตัวในไตรมาส 2 ก่อนจะค่อยๆ ชะลอลงในครึ่งหลังของปี ดังนั้น อัตราเงินเฟ้อจึงไม่น่าที่จะเป็นปัจจัยกดดันให้ ธปท. ปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายขึ้นเร็ว ซึ่งการประมาณการณ์อัตราเงินเฟ้อของเรานั้นค่อนข้างที่จะแตกต่างจากการประมาณการณ์โดยสำนักวิจัยอื่นๆ ยกตัวอย่างเช่น เราประเมินอัตราเงินเฟ้อที่ประมาณ 3-4% ในไตรมาส 1 และลดลงหลังจากนั้นไปอยู่ที่ประมาณ 2-3% ในไตรมาส 4 ในขณะที่ ธปท. มองว่าอัตราเงินเฟ้อน่าจะเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ประมาณ 4-5% ในไตรมาส 3 ของปี 2010 (รูปที่ 1) โดยการประมาณการณ์อัตราเงินเฟ้อของเรานั้น แตกต่างจากของธปท. ด้วยสองปัจจัย คือ

  • รวมเพียงแค่การยกเลิกมาตรการช่วยเหลือค่าครองชีพด้านน้ำประปา และก๊าซ LPG สำหรับอุตสาหกรรมเข้าไปในการประมาณการณ์ของเราเท่านั้น เพราะเชื่อว่ามาตรการช่วยเหลือค่าครองชีพอย่างอื่นๆ ไม่น่าจะถูกยกเลิก เป็นผลจากปัจจัยทางการเมือง ทั้งนี้ หากมาตรการช่วยเหลือค่าครองชีพอื่นๆ ถูกยกเลิกด้วย อัตราเงินเฟ้อจะสูงขึ้น และเข้าใกล้ประมาณการณ์ของ ธปท. มากขึ้น
  • คาดว่า ช่องว่างการผลิต (output gap) ที่จะค่อยๆ ปิดลงนั้น น่าจะส่งผลต่ออัตราเงินเฟ้อค่อนข้างจำกัด เนื่องจากช่องว่างการผลิตคือผลต่างระหว่างการผลิตจริงของเศรษฐกิจ (actual output) และศักยภาพทางการผลิตของเศรษฐกิจ (potential output) และเรามองว่าการปิดลงของช่องว่างการผลิตที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้ จะถูกขับเคลื่อนโดยการส่งออก มากกว่าการบริโภคภายในประเทศ ดังนั้นจึงไม่น่าจะส่งแรงกดดันต่ออัตราเงินเฟ้อ ซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดราคาสินค้าบริโภค ไม่ใช่ราคาสินค้าส่งออก


(2) ธนาคารกลางของสหรัฐอเมริกา ไม่น่าที่จะปรับดอกเบี้ยนโยบายขึ้นเร็วๆนี้
 ขนาดที่ว่าสำนักวิเคราะห์ต่างชาติบางแห่งมองว่าธนาคารกลางของสหรัฐอเมริกา น่าจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้จนครึ่งหลังของปี 2011 ทีเดียว ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยนโยบายของประเทศต่างๆ เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ ธปท. คำนึงถึงเวลากำหนดนโยบายการเงิน เพราะการที่อัตราดอกเบี้ยของไทยปรับขึ้นเร็วกว่าอัตราดอกเบี้ยของประเทศอื่นๆ อาจทำให้เงินบาทแข็งค่า ส่งผลเสียต่อภาคการส่งออกได้ และถ้าดูความสัมพันธ์ที่ผ่านมาจะพบว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยค่อนข้างขยับไปพร้อมกับอัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐอเมริกา โดยมีเพียงครั้งเดียวเท่านั้นในระหว่างปี 2009 ที่ดอกเบี้ยนโยบายของไทยถูกปรับขึ้นขณะที่ดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐอเมริกาถูกปรับลง แต่หลังจากที่อัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยถูกปรับขึ้นไม่นาน ก็ถูกปรับลงอย่างแรงและรวดเร็ว ตามอัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐอเมริกา (รูปที่ 2


ทั้งนี้ การที่ธนาคารกลางมาเลเซียปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอีก 25bps เมื่อวันที่ 4 มี.ค. ที่ผ่านมา ไม่น่าจะส่งผลกับการตัดสินใจปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของไทยมากนัก แม้การที่ธนาคารกลางมาเลเซียปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย อาจดูเหมือนว่ามีโอกาสที่ ธปท จะขึ้นดอกเบี้ยเร็วขึ้น เพราะไม่มีประเทศไหนอยากขึ้นดอกเบี้ยเป็นรายแรกในเอเชีย ดังนั้นการขึ้นดอกเบี้ยของมาเลเซียอาจทำให้ประเทศอื่นๆ มีโอกาสทำตามได้ง่ายขึ้น แต่เรายังคงมองว่าการตัดสินใจของ ธปท น่าจะดูจากปัจจัยภายในประเทศและผลกระทบต่อค่าเงินบาทมากกว่า เรายังมองว่าแนวโน้มเงินเฟ้อดังที่กล่าวมาไม่น่าเป็นเหตุผลให้ ธปท ต้องรีบขึ้นดอกเบี้ย นอกจากนี้การขึ้นดอกเบี้ยยังจะส่งผลให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นเหมือนที่เกิดขึ้นกับค่าเงินริงกิต ซึ่งไม่น่าจะใช่สิ่งที่ ธปท ต้องการ ทั้งนี้ตั้งแต่ต้นปีเงินบาทก็แข็งค่าขึ้นราว 2% (year-to-date) ไปแล้ว ซึ่งก็เป็นอันดับต้นๆ ในกลุ่มประเทศ Asia ex-Japan อยู่แล้ว

 1261_20100803172257.jpg


1260_20100803172255.jpg

 

ธนาคารมีการใช้เทคโนโลยี เช่น คุกกี้ (cookies) และเทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกันบนเว็บไซต์ของธนาคาร เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น โปรดอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ นโยบายการใช้คุกกี้ของธนาคาร
ยอมรับ