ก้าวตามผู้บริโภคให้ทัน
เผยแพร่ใน EIC Insight : ซัพพลายเชนจะปรับตัวอย่างไรเมื่อโลกเปลี่ยน คลิกอ่านฉบับเต็ม
ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในวงการอุตสาหกรรมที่กระทบต่อผู้ผลิตและผู้บริโภค ทั้งรูปแบบความคิด ความต้องการ พฤติกรรม และการปฏิสัมพันธ์ เนื่องจากเทคโนโลยีสมัยใหม่ทำให้ผู้ผลิตและผู้บริโภคเชื่อมต่อถึงกันได้ตลอดเวลา ผู้บริโภคจึงมีอำนาจในการต่อรองกับผู้ผลิตมากขึ้น ส่งผลให้ความสัมพันธ์ภายในซัพพลายเชน เกิดการเปลี่ยนแปลงจากลักษณะเส้นตรง เป็นลักษณะเครือข่าย
โดยรูปแบบในอดีต ผู้เล่นต่างๆ ในซัพพลายเชน จะเรียงลำดับเป็นขั้นตอน มีลักษณะเหมือนเส้นตรง (linear) เช่น ขั้นตอนที่ 1 คือการสั่งวัตถุดิบเพื่อส่งไปผลิตชิ้นส่วนในขั้นตอนที่ 2 และประกอบเป็นสินค้าสำเร็จรูปในขั้นตอนที่ 3 จากนั้นขั้นตอนที่ 4 คือการส่งสินค้าไปยังคลังสินค้า เพื่อส่งต่อไปยังมือผู้บริโภคในขั้นที่ 5 โดยลำดับจะเพิ่มขึ้นในกรณีที่ผลิตสินค้าที่มีความซับซ้อนมากขึ้น ในขณะที่รูปแบบใหม่ จะมีลักษณะเป็นเครือข่าย (network) เนื่องจากผู้บริโภคสามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลกับหน่วยต่างๆ ในซัพพลายเชนได้ตลอดเวลา โดยไม่ต้องเรียงตามลำดับ ข้อมูลผู้บริโภคจะเป็นตัวช่วยในการกำหนดซัพพลายเชน ตั้งแต่ รูปแบบสินค้าที่ผลิต จำนวนสินค้าที่ผลิต จนถึงวิธีการขนส่งสินค้า ดังนั้น ระบบซัพพลายเชนจะต้องปรับปรุงให้ทันต่อความต้องการผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป
ความสัมพันธ์ในซัพพลายเชน เปลี่ยนจากลักษณะเส้นตรงเป็นเครือข่ายที่ทำให้ธุรกิจต้องทำงานร่วมกันมากขึ้น
ในปัจจุบันผู้บริโภคกว่า 1.8 พันล้านคนค้นหาข้อมูลและเปรียบเทียบสินค้าหรือบริการจากรีวิวบนโซเชียลมีเดียประกอบการตัดสินใจซื้อ ด้วยความต้องการของผู้บริโภคที่มีความหลากหลายมากขึ้น ไม่ต้องการสินค้าแบบเดียวกันอีกต่อไป แต่ต้องการสิ่งที่ตอบโจทย์ให้กับตนเองได้มากที่สุด ผู้บริโภคจึงได้กลายมาเป็นผู้กำหนดที่แท้จริงว่าธุรกิจต้องผลิตสินค้าและบริการแบบไหน ด้วยราคาที่เท่าไหร่ ผลิตด้วยวัสดุอะไร ทั้งนี้ ซัพพลายเชนที่ให้ความสำคัญกับผู้บริโภคไม่เพียงจะต้องมีความโปร่งใสเท่านั้น หากแต่ต้องมีการปรับเปลี่ยนจากการนำเสนอสินค้าประเภทเดียวกันเป็นสินค้าที่มีความหลากหลายตามความต้องการ รวมถึงการนำข้อมูลแบบเรียลไทม์มาช่วยคาดการณ์ด้วย จากเดิมที่ใช้ข้อมูลในอดีตเพียงอย่างเดียว อีกทั้งต้องปรับเปลี่ยนการวางแผนรอบอายุสินค้า (product cycle) ให้สั้นกว่าเดิม ตลอดจนเปลี่ยนจากการทำงานแยกกันตามหน้าที่เป็นการร่วมมือและแชร์ข้อมูลอย่างใกล้ชิด