Outlook ไตรมาส 4/2014
อีไอซีคงประมาณการอัตราการขยายตัวเศรษฐกิจไทยปี 2014 ไว้ที่ 1.6% เนื่องจากเศรษฐกิจในช่วงไตรมาส 3 ที่ผ่านมาเริ่มทรงตัวและมีสัญญาณของการปรับตัวดีขึ้นตามที่คาดไว้ แรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้จะมาจากการฟื้นตัวของการลงทุนภาคเอกชนและการเร่งใช้จ่ายงบประมาณของภาครัฐเป็นหลัก อีกทั้งยังเสริมด้วยภาคการท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มดีขึ้นตามความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวต่างชาติต่อสถานการณ์ในประเทศ ส่วนการส่งออกและการบริโภคภาคครัวเรือนน่าจะขยายตัวได้เล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งปัจจัยข้างต้นจะเป็นแรงขับเคลื่อนสำหรับปี 2015 ที่ อีไอซีประเมินว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้ 4.8% ทั้งนี้ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดคือการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาล อาทิ การปรับโครงสร้างภาษีและโครงสร้างราคาพลังงาน รวมถึงการผลักดันโครงการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ เป็นต้น ส่วนการเปลี่ยนแปลงในต่างประเทศที่สำคัญคือการปรับทิศทางนโยบายการเงินของสหรัฐฯ ซึ่งนอกจากจะไม่มีมาตรการ QE อีกต่อไปแล้ว ยังจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 10 ปีอีกด้วย โดยอีไอซีคาดว่าการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะทำให้ค่าเงินบาทมีความผันผวนมากขึ้นเพราะมุมมองของนักลงทุนต่อช่วงเวลาที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายมีความอ่อนไหวต่อข้อมูลเศรษฐกิจค่อนข้างมาก และยังเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยมีโอกาสปรับขึ้นในปี 2015
Outlook ไตรมาส 4/2014 ภาพรวมเศรษฐกิจปี 2014 และ 2015
สมัครสมาชิก เพื่อดาวน์โหลดเอกสาร |
ภาพรวมเศรษฐกิจปี 2014 และ 2015 อีไอซีคงประมาณการอัตราการขยายตัวเศรษฐกิจไทยปี 2014 ไว้ที่ 1.6% เนื่องจากเศรษฐกิจในช่วงไตรมาส 3 ที่ผ่านมาเริ่มทรงตัวและมีสัญญาณของการปรับตัวดีขึ้นตามที่คาดไว้ แรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้จะมาจากการฟื้นตัวของการลงทุนภาคเอกชนและการเร่งใช้จ่ายงบประมาณของภาครัฐเป็นหลัก อีกทั้งยังเสริมด้วยภาคการท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มดีขึ้นตามความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวต่างชาติต่อสถานการณ์ในประเทศ ส่วนการส่งออกและการบริโภคภาคครัวเรือนน่าจะขยายตัวได้เล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งปัจจัยข้างต้นจะเป็นแรงขับเคลื่อนสำหรับปี 2015 ที่ อีไอซีประเมินว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้ 4.8% ทั้งนี้ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดคือการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาล อาทิ การปรับโครงสร้างภาษีและโครงสร้างราคาพลังงาน รวมถึงการผลักดันโครงการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ เป็นต้น ส่วนการเปลี่ยนแปลงในต่างประเทศที่สำคัญคือการปรับทิศทางนโยบายการเงินของสหรัฐฯ ซึ่งนอกจากจะไม่มีมาตรการ QE อีกต่อไปแล้ว ยังจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 10 ปีอีกด้วย โดยอีไอซีคาดว่าการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะทำให้ค่าเงินบาทมีความผันผวนมากขึ้นเพราะมุมมองของนักลงทุนต่อช่วงเวลาที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายมีความอ่อนไหวต่อข้อมูลเศรษฐกิจค่อนข้างมาก และยังเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยมีโอกาสปรับขึ้นในปี 2015 ในระยะ 5 ปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจไทยชะลอตัวลงอย่างมากจากช่วงก่อนหน้าจากผลิตภาพแรงงาน (labor productivity) ที่ขยายตัวในอัตราที่ช้าลง ขณะที่โครงสร้างสินค้าส่งออกเดิมไม่สามารถตอบสนองความต้องการของตลาดโลกที่เริ่มฟื้นตัวแล้วได้ นอกจากนี้ อันดับความสามารถในการแข่งขันของไทยยังลดลงเมื่อเทียบกับนานาชาติจากปัญหาในด้านประสิทธิภาพของหน่วยงานและสถาบันภาครัฐ (institutions) ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ลดความน่าลงทุนในไทย ทั้งการดึงดูดเม็ดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศเพื่อเพิ่มผลิตภาพการผลิต (productivity) และการขยายการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ ในขณะเดียวกันการวิเคราะห์ในระดับอุตสาหกรรมบ่งชี้ว่าไทยควรขยายการลงทุนในอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มเติบโตสูงในอนาคต ปรับเปลี่ยนรูปแบบสินค้าและขยายตลาดในอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มการเติบโตชะลอลง และยกระดับการผลิตในห่วงโซ่คุณค่า (value chain) ให้สูงขึ้นโดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าเกษตรที่ไทยมีความได้เปรียบ |